Creditsheep Blog

ปัญหาบัตรเครดิตง่ายนิดเดียว www.CreditSheep.Wordpress.com

กระดานพูดคุย

เรื่องราวต่างๆของบัตรเครดิตนั้นมีมากมาย ลองสอบถามกันดูนะครับทุกคน

111 Responses to “กระดานพูดคุย”

  1. พงษ์ said

    พอดีมาอ่านเจอ เลยอยากจะเรียนถามผู้รู้ ผมเป้นหนี้สว่นบุคคลของธนาคารหนึ่งผมขาดส่งมาจะครบปีแล้วตอนที่มีทนายโทรมาบอกว่า หนี้ผม รวมดอกเบี้ยเบี้ยปรับ780000 แต่เขาสามารถ ทำเรื่องขอกับทางธนาคารได้ คือจ่ายประมาณ 150000บาท แล้วก็ปิดจบเลย โดยผมต้อง ส่งสำเนาบัตรประชาชนกับภาระหนี้ทางอื่นแฟกต์ไปไห้เขา แล้วเขาจะทำเรื่องไห้ แล้วไห้ผมเก็บเงินก้อน 150000 ไว้รอเอกสารจากทางธนาคารแล้ว ปิดจบเลย ไม่ทราบว่าเพื่อนๆเคยเจอแบบนี้ไหม
    และผมเคยคุยกับเจ้าหน้าที่ทางธาคารคนนึงเขาบอกว่า ก่อนจะถึงกำหนดส่งฟ้องศาล ธนาคารจะลดหนี้ไห้เลา อย่างสุดๆ เพื่อที่จะได้ไม่มีการฟ้อง อันนี้เขาบอกมา แต่ผมกลัวจะเป็นการโดนหลอกไห้ปรับโครงสร้างหนี้ซธมากกว่า วานเพื่อนๆที่เคยเจอและ ปิดจบ เข้ามาตอบดว้ยครับ

  2. sheepsleep said

    สวีสดีครับคุงพงษ์ …
    สำหรับเรื่องที่คุณพงษ์ถาม ผมต้องเรียนว่าในระบบการจัดเก็บหนี้คืนธนาคารนั้น สิ่งที่คุณเล่ามาเป็นเรื่องที่ทางธนาคารสามารถที่จะทำได้ครับ แต่ต้องดูความเป็นไปได้ในอัตราของส่วนลดที่เขาให้ด้วยนะ คือเราต้องคำนวณดูว่าเงินต้นเราเหลือเท่าไหร่และดอกเบี้ยมีเท่าไหร่ เพราะโดยปกติแล้วทางธนาคารน่าจะมีส่วนลดในการปิดจบหนี้อยู่ที่ไม่เกิน 30-50% หรือเค้าอาจจะตัดดอกเบี้ยที่มีทั้งหมดทิ้งแล้วเอาเงินต้นมาทำส่วนลดประมาณ 30% ให้กับเรา แต่ยังไงก็ตามต้องตรวจสอบดูนะครับว่า บริษัทที่ทำเรื่องปิดจบหนี้ให้กับเรานั้นไว้ใจได้แค่ไหน และถ้าจะทำการปิดจบหนี้กับทางบริษัทนี้จริง เราต้องขอเอกสารยืนยันในการปิดจบหนี้จากเขามาด้วยนะครับ ( ถ้ายังไปคุณลองสอบถามกับธนาคารเจ้าของบัญชีส่วนบุคคลของคุณดูก็ได้นะครับว่าบริษัทที่ทำเรื่องให้คุณนั้นเชื่อถือได้หรือไม่ )
    ถ้ามีปัญหาข้อสงสัยเรื่องไหนอีกก็สอบถามเข้ามาได้นะครับ ขอบคุณมากครับ / Sheep

  3. Jantana said

    ได้ลองเสริชหาข้อมูลมาหลายเว็บแล้ว พบว่ามีคนมีปัญหาเรื่องบัตรเครดิตมากมายเหลือเกิน และมีปัญหามากกว่าดิฉันด้วยซ้ำ แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่สามารถตอบคำถามให้กับดิฉันได้ เลยขอรบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ

    ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิตเคทีซีอยู่ประมาณแสนกว่า และเฟิร์สช้อยส์แบ่งชำระ 18 เดือน เหลืออีกสิบเดือน ประมาณแสน ดิฉันออกจากงานประจำมาประมาณ 5 ปีแล้ว หนี้สินที่เกิดขึ้นก็เกิดในช่วงนี้ที่เอาเงินมาหมุนไปมา แต่ปีนี้ไม่มีงานเข้ามา ไม่มีรายได้ใดๆ เลย กำลังกลุ้มใจมากว่าจะหาเงินที่ไหนไปชำระประจำเดือน

    อ่านจากเว็บอื่นบอกว่าให้หยุดชำระไปก่อนถ้าไม่มีจริงๆ ให้รอจนฟ้องร้องไป แต่ว่าดิฉันกลัวการโทรทวงหนี้จริงๆ เคยจ่ายช้าไปเดือนก็โทรตามกันทุกวัน เลยต้องไปยืมเงินคนอื่นมาจ่าย รู้สึกแย่มากๆ กับการต้องไปยืมเงินคนอื่นมา กลุ้มใจมากนอนไม่หลับไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร งานก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้

    คิดว่าจะนำที่ดินมรดกไปจำนองธนาคาร ให้พี่สาวเป็นผู้กู้ก็กู้ไม่ผ่าน ดิฉันไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการจำนองเท่าไรนัก กลัวว่าจะเป็นการเพิ่มหนี้เข้าไปอีกหรือเปล่า

    รบกวนคุณ sheep ให้คำแนะนำด้วยนะคะ ว่าจะต้องทำอะไรต่อไป ตอนนี้รู้สึกมืดมิดไปหมดแล้ว

  4. sheepsleep said

    สวัดดีครับคุณ Jantana …
    คืออย่างนี้นะครับ จากที่คุณเล่ามานั้นผมคิดว่าทางออกที่คุณบอกว่าจะหยุดชำระไปก่อนนั้น ก็สามารถทำได้ครับ และคุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะมีคนโทรมาหาคุณหรอกครับ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ ก่อนอื่นผมคงต้องลองพูดให้คุณหายกลัวและเข้าใจพวกทวงหนี้ซะก่อนนะครับ กลุ่มคนที่ทำงานในสายงานทวงหนี้นั้น โดยส่วนมากแล้วเค้าทำงานเพื่อหวังในคอมมิชชั่นเท่านั้น โดยที่จะใช้คำพูดต่างๆนาๆดีบ้างไม่ดีบ้าง ยกสิ่งนั้นสิ่งนี้มาทำให้เราเกิดความรู้สึกกลัวหรือรำคาญ จนต้องยอมจ่ายเงินให้กับเค้าไป สิ่งที่คนพวกนี้พูดก็มีทั้งจริงบ้างหลอกลวงเราบ้างตามแต่คนไหนจะถนัดแบบไหน เพราะแบบนี้อย่าไปสนใจเค้าครับ สิ่งที่เราควรจะสนใจนั้นก็คือถ้าเราจะต้องการหยุดจ่ายจริงๆ เราต้องเริ่มตั่งทิศทางนะครับ สมมุติว่า ถ้าเราหยุดจ่ายเพราะเราไม่มีงานหรือถ้าตอนนี้เราจ่ายเค้าไปแล้วชีวิตเราลำบาก เราก็ต้องหยุดจ่ายไว้ก่อนครับ เราต้องเอาชีวิติตัวเองให้รอดก่อน แล้วหลังจากนั้นเราค่อยเริ่มคิดว่าภายในระยะเวลาที่เหลือก่อนที่จะถูกเค้าฟ้องเราสามารถที่จะหาเงินที่จะมาใช้คืนให้เขาได้จากทางไหนบ้าง ไม่ต้องห่วงนะครับเพราะเวลายังมีอีก อย่างน้อยก็อีกเป็น ปีหรือสองปี แล้วถ้าเวลามันผ่านไปซักระยะการงานของเราดีขึ้น เงินเริ่มคล่องตัว ก็ค่อยหาทางติดต่อกับทางธนาคารเพื่อที่จะขอจ่ายต่อก็ยังได้นะครับ ขึนตอนทุกอย่างมันไม่ได้โหดร้ายและรวดเร็วแบบที่คิดหรอกครับ ดังนั้นตอนนี้ผมแนะนำว่าอยากให้คุณทำใจให้สบายแล้วคิดแค่สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก่อนและพยามทำให้ดีที่สุดครับ เรื่องอื่นถ้ามันทำให้เราเครียดคิดมากก็อย่าพื่งไปนึกถึงมัน แล้วเรื่องที่ว่าจะเอาที่ดินไปจำนองนั้นผมไม่แนะนำนะครับเพราะยังไงคุณก็ยังต้องหาเงินมาจ่ายอีกอยู่ดีมันไม่คุ้มหรอกครับ
    และถ้ามีปัญหาอะไรอีกก็สอบถามได้อีกนะครับ ขอบคุณมากๆ / Sheep

  5. carot said

    สวัสดี คุณ Sheep

    ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับหนี้บัตรกดเงินสดค่ะ คือตอนนี้เป็นหนี้อยู่ประมาณ 80,000 บาท แต่ยังไม่เคยค้างชำระสักงวด แล้วหนี้ก้อนหนี้ระยะเวลาการชำระยังไม่ถึง 1 ปี ถ้าจะขอประนอมหนี้กับธนาคาร ทางธนาคารจะยอมหรือเปล่า เพราะว่าตอนนี้สถานะทางการเงินไม่คล่องเหมือนเดิมแล้ว และขั้นตอนการประนอมหนี้ต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ อัตราดอกเบี้ยจะลดลงหรือเปล่า รบกวนคุณ Sheep ให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

    • sheepsleep said

      สวัสดีครับคุณ carot …
      จากที่คุณ carot เล่ามานะครับ คุณสามารถที่จะเดินเข้าไปหาทางธนาคารเจ้าของบัญชีได้เลยนะครับแล้วบอกกับเค้าว่าช่วงนี้เรามีปัญหาขอทำสัญญาใหม่หรือขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปให้นานขึ้นได้ครับ แล้วทางธนาคารเค้าจะแจ้งให้คุณได้ทราบว่าในขณะนี้ทางธนาคารมีตัวเลือกอะไรให้คุณเลือกได้บ้าง ไม่ต้องกังวลนะครับถ้าคุณกล้าเดินเข้าหาทางธนาคารก็พร้อมเปิดรับคุณนะครับ ขอบคุณครับ / Sheep

  6. แม่ลูกสอง ทำธุรกิจแล้วขาดทุน สามีตกงาน said

    สวัสดีค่ะ
    ขอคำแนะนำจากคุณsheepนะคะ ก็เป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่จำนวนมากเหมือนกัน
    แต่ก็สามารถจ่ายค่างวดได้ตลอด มา3-4เดือนที่ผ่านมานี้ ธุรกิจที่ทำเริ่มมีปัญหา แต่ก็ยังหมุนเงินได้อยู่ จนถึงเดือนนี้ มันแย่สุดๆ ถึงขั้นไม่มีจ่าย คิดว่าถ้าไปหยิบยืมเพื่อให้ผ่านเดือนนี้ไป แล้วเดือนถัดไปอีกล่ะ อยากขอความเห็นจากคุณว่า ถ้าเราไม่ไหว อยากหยุดจ่าย เวลารับโทรศัพท์จากแบ็งค์ เราควรจะพูดแบบไหนจึงจะworkสุด เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมา จะพูดประมาณว่า กำลังหาเงินอยู่ แต่ตอนนี้มาคิดดูแล้วหยุดสร้างหนี้เพิ่มน่าจะดีกว่า รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะ

    • sheepsleep said

      สวัสดีครับคุณ ? …
      ตอบ .. ถ้าคุณจะหยุดจ่ายคุณคงต้องทำใจไว้ก่อนเลยนะครับเพราะว่าคุณต้องโดนคำพูดที่ไม่น่าฟังจากทางธนาคารเป็นอย่างแน่นอน แนะนำนะครับถ้าจ่ายต่อไม่ไหว บอกเค้าไปตรงๆเลยว่า จะไม่จ่ายแล้วให้ทำตามระบบขั้นตอนไปเลยแล้วก็วางสาย ( อาจจะดูแรงซักหน่อยแต่ได้ผลนะครับ ) แล้วต่อจากนั้นจะมีคนติดต่อกลับมาหาคุณเองเค้าจะมาเสนอทางออกให้คุณ คุณก็ลองฟังดูว่าน่าสนใจรึเปล่า ถ้าดีก็รับไว้แต่ถ้าไม่ชอบใจ ก็ไม่ต้องสนใจ เค้ายังไม่ฟ้องคุณหรอกครับเพราะคุณจ่ายเค้าดีมาตลอด อย่างน้อยก็อีกเป็นปีน่ะครับ แล้วถ้าการเงินเริ่มดีขึ้นคุณก็ค่อยติดต่อกลับหาทางธนาคารแล้วแจ้งเค้าว่าจะกลับมาจ่ายต่อให้และขอให้ทางธนาคารลดดอกเบี้ยให้คุณด้วย เอาอย่างนี้ผมว่าดีที่สุดนะครับ ขอบคุณครับ / Sheep

  7. ลิลลี่ said

    สวัสดีค่ะ

    ดิฉันมีหนี้บัตรกดเงินสด ธ.ทหารไทย จำนวน 37000 บาทมาช่วงเดือนกย-ธค.มีจ่ายล่าช้าเดือนเว้นไปบ้างจนท้ายสุดเดือนมค.ก็ยังจ่ายอยู่ปรากฎว่ามีหมายศาลมาติดที่หน้าบ้านฟ้องดำเนินคดีจากการที่ไม่ชำระหนี้ทั้งที่เพิ่งจ่ายไปและเจ้าหน้าที่สำนักงานกม.ก็ยังโทรให้ชำระอยู่จึงถามเขาว่าคุณให้ไปชำระแต่ในขณะเดียวกันก็ส่งฟ้องศาลไปพร้อมๆ กันอย่างนี้จะเอาอย่างไรกันแน่ เขาก็บอกว่าก็คุณจ่ายช้ายังงัยเราก็ฟ้อง ตอนนี้รอไปขึ้นศาลเดือนเมย.ควรจะทำอย่างไรดีค่ะขอคำแนะนำด้วยค่ะ
    ขอบคุณค่ะ

  8. sheepsleep said

    สวัสดีครับคุณลิลลี่ …
    เอาอย่างนี่นะครับลองเช็คดูว่าหมายศาลที่เค้าส่งมาหาคุณเมื่อเดือนมกราคมนั้นเป็นหมายศาลของจริงรึเปล่า เพราะตามหลักไม่น่าที่จะมีการฟ้องเร็วแบบนี้ ถ้านับจากวันที่คุณเล่ามานะครับ แต่ถ้าเป็นของจริง คุณควรติดต่อธนาคารทหารไทย แล้วลองเช็คดูว่าเงินที่ทุกวันนี้คุณจ่ายไปเป็นการจ่ายเข้าเงินต้นหรือจ่ายเข้าดอกเบี้ย จดยอดเงินคงเหลือบัญชีหนี้ของคุณจากธนาคารมาซะ แล้วก็หยุดจ่ายไปเลย แล้วถ้าหมายศาลบอกว่าให้ไปขึ้นศาลในเดือนเมษายน ก็ไปตกลงกันในศาลเลยครับ และก็แจ้งให้ศาลทราบด้วยว่า เราได้ทำการจ่ายไปแล้วแต่ทางธนาคารยังส่งฟ้องอยู่จึงขอความเป็นธรรมจากศาล ให้ช่วยเหลือเราด้วย แล้วศาลจะมีทางออกให้เราครับคุณลิลลี่ / *หมายเหตุ ที่คุณลิลลี่จ่ายเงินแล้วยังโดนส่งฟ้องอาจจะเกิดขึ้นมาจากการที่คุณลิลลี่ไม่สามารถจ่ายเงินได้ตามขึ้นต่ำที่ทางธนาคารเค้ากำหนดก็เป็นไปได้นะครับ ขอบคุณมากครับ / Sheep

  9. Phatchara said

    สวัสดีค่ะ
    พอดีมีปัญหาเรื่องบัตรเครดิตและสินเชื่อเงินสดเหมือนกันค่ะ ตอนนี้มีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดดังนี้ค่ะ บัตรเครดิตของกสิกรไทย ซิตี้แบงค์ ยูเมะพลัส อิออน บิ๊กซี และ สินเชื่อเงินสดของเซทเทเลมค่ะ บัตรอื่นๆ ก็ยังคงวนใช้วนจ่ายอยู่ปกติแต่บัตรบิ๊กซี และ สินเชื่อเซทเทเลมไม่ได้จ่ายมาประมาณเกือบปีแล้วค่ะ ตอนนี้เฉพาะ 2 รายการนี้ที่ปล่อยยอดรวมประมาณ หกหมื่นกว่าบาทแล้วเค้าหยุดดอกเบี้ยแล้วแต่ทุกวันนี้เงินเดือนไม่พอจ่ายจริงๆ เคยประนอมหนี้แล้วแต่ก็ยังไม่มีเงินที่จ่ายเค้าเนื่องจากออกจากงานแล้วมาทำงานใหม่เค้าให้เงินเดือนน้อยกว่าเดิมที่เคยได้จึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน ไม่ทราบว่าจะสามารถแก้ปัญหายังไงได้บ้างค่ะเพราะมีจดหมายจากสำนักงานกฏหมายทวงถามมาเรื่อยๆเลย กลัวเรื่องถึงศาล แล้วก็ไม่กล้าไปอีกอย่างที่จะสอบถามคือถ้ามีชื่อเป็นผู้กู้ร่วมของบ้านที่อยู่ปัจจุบันแต่เจ้าของบ้านจริงๆเป็นน้าไม่ทราบว่าถ้าเค้ายึดทรัพย์เค้าจะยึดบ้านนี้ได้ไหมค่ะ แล้วต้องแก้ไขอย่างไรบ้างคิดไม่ตกจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ

  10. Phat said

    สวัสดีค่ะ
    พอดีมีปัญหาเรื่องบัตรเครดิตและสินเชื่อเงินสดเหมือนกันค่ะ ตอนนี้มีบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดดังนี้ค่ะ บัตรเครดิตของกสิกรไทย ซิตี้แบงค์ ยูเมะพลัส อิออน บิ๊กซี และ สินเชื่อเงินสดของเซทเทเลมค่ะ บัตรอื่นๆ ก็ยังคงวนใช้วนจ่ายอยู่ปกติแต่บัตรบิ๊กซี และ สินเชื่อเซทเทเลมไม่ได้จ่ายมาประมาณเกือบปีแล้วค่ะ ตอนนี้เฉพาะ 2 รายการนี้ที่ปล่อยยอดรวมประมาณ หกหมื่นกว่าบาทแล้วเค้าหยุดดอกเบี้ยแล้วแต่ทุกวันนี้เงินเดือนไม่พอจ่ายจริงๆ เคยประนอมหนี้แล้วแต่ก็ยังไม่มีเงินที่จ่ายเค้าเนื่องจากออกจากงานแล้วมาทำงานใหม่เค้าให้เงินเดือนน้อยกว่าเดิมที่เคยได้จึงทำให้หมุนเงินไม่ทัน ไม่ทราบว่าจะสามารถแก้ปัญหายังไงได้บ้างค่ะเพราะมีจดหมายจากสำนักงานกฏหมายทวงถามมาเรื่อยๆเลย กลัวเรื่องถึงศาล แล้วก็ไม่กล้าไปอีกอย่างที่จะสอบถามคือถ้ามีชื่อเป็นผู้กู้ร่วมของบ้านที่อยู่ปัจจุบันแต่เจ้าของบ้านจริงๆเป็นน้าไม่ทราบว่าถ้าเค้ายึดทรัพย์เค้าจะยึดบ้านนี้ได้ไหมค่ะ แล้วต้องแก้ไขอย่างไรบ้างคิดไม่ตกจริงๆค่ะ ขอบคุณค่ะ/Phat

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Phatchara …
      อาจจะลำบากอยู่สักหน่อยนะครับคุณPhatchara เพราะผมคิดว่าต่อไปบัตรอื่นๆของคุณก็จะเริ่มค่อยๆมีปํญหาตามมาอย่างแน่นอน และถ้าจะถามว่าเค้าจะฟ้องรึเปล่านั้นตอบได้เลยครับว่าฟ้องแน่ๆ แต่อาจยังไม่ใช่ตอนนี้ จากที่คุณเล่ามามันมีจดหมายมาจากสำนักงานทนายความใช้มั้ยครับ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ยังไม่ต้องกังวลมาก เพราะลองสังเกตุดูนะครับว่า จดหมายนั้นมันจะมีมาอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ขู่ไปว่าจะต้องติดต่อกลับภายใน 7 วันอะไรประมาณนี้ ยังไม่ต้องสนใจครับที่คุณจะต้องสนใจมีอยู่แค่อย่างเดียวคือหมายศาล แต่ผมเชื่อนะว่าอีกซักพักใหญ่ๆแหละถึงจะมีการฟ้อง ดังนั้นวิธีแก้ปัญหานะครับ เนื่องจากคุณมีบัตรหลายบัตรและยังพอมีบัตรที่ยังใช้งานได้อยู่ คุณลองติดต่อขอกู้เงินจากที่ใดก็ได้ครับแต่ต้องเป็นเงินในระบบนะครับ แล้วเอามาเพื่อปิดบัญชีบัตรต่างๆของคุณที่คุณกำลังคิดว่ามันไม่ไหวแล้ว พยายามๆรวมหนี้ให้เป็นที่เดียวซะ หรือไม่ก็ ให้เหลือเฉพาะบัตรที่จำเป็นต้องใช้จริงๆซัก2ใบก็น่าจะพอ เพราะยิ่งเจ้าหนี้หลายที่เรื่องก็ยิ่งจะมากตามนะครับ ส่วนเรื่องบ้านยังไม่ต้องห่วงหรอกครับยังไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน เอาตามนี้ก่อนละกันนะครับ แต่ถ้ากู้ที่ไหนไม่ได้เลยก็ลองมาคุยกันใหม่นะครับ จะได้ช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุดให้ครับ ขอบคุณมากครับ / Sheep

  11. คิคารุ said

    สวัสดีค่ะ
    อยากปรึกษานะค่ะตอนนี้เป็นหนี้กับ ktc บัตรกดเงินสดอยู่31000บาท ของ citi bank เรดดี้เครดิต เป็นบัตรกดเงินสด อยู่ 31000 บาท และของ big c อยู่ 10000 บาท รวมทั้งหมดประมาณ 72000 บาทแล้วจ่ายไม่ไหวแล้วถ้าจะหยุดจ่ายจะมีผลตามมาอย่างไรบ้าง จะต้องถูกฟ้องหรือเปล่าและต้องไปขึ้นศาลหรือไม่และจะถูกยึดทรัพย์หรือเปล่า ตอนนี้กลุ้มมากนะค่ะจะทำอย่างไรดี

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ คิคารุ …
      ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ตอบช้า ถ้าคุณหยุดจ่ายปัญหาที่จะตามมาแน่ๆเลยก็คือคุณจะไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินใดๆได้น่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นกู้เงินซื้อบ้าน,ซื้อรถ หรืออะไรแบบนี้น่ะครับ แต่ถ้าคุณซื้อมาแล้วก็ว่ากันไปอีกเรื่องนึงนะครับ แต่ผมต้องบอกว่าถ้าคุณคิดแน่แล้วว่าจะไม่จ่ายต่อหรือจ่ายไม่ไหวแล้ว ก็หยุดเถอะครับอาจจะมีคนเข้ามากวนใจคุณบ้างแต่ก็ต้องทนครับ แล้วค่อยๆเก็บเงินซักก้อนเพื่อขอปิดจบหนี้จากเค้าในภายหลัง คุณบอกว่าบัตรที่คุณมีมีของ Ktc,Citi Bank 2 บัตรนี้มันมีระยะเวลานานพอสมควร ส่วนของ Big C วงเงินมันก็ยังน้อยอยู่ครับ สบายใจเถอะเค้ายังไม่ฟ้องคุณหรอกอย่าพื่งไปคิดมากครับ ทำงานเก็บเงิน แล้วก็ประหยัดๆไปไว้ก่อนนะครับ ให้เราพอมีเงินก้อนติดตัวไว้ พอถึงวันที่ปัญหามันเกิดเราจะได้พร้อมที่จะแก้ไขมันนะครับ ขอบคุณมากๆครับ / Sheep

  12. คิคารุ said

    ตอบที

  13. ปังคุง said

    วิธีแก้จน

  14. Phat said

    แล้วพวกค่าโทรศัพท์มือถือที่ใช้แล้วไม่ได้จ่ายทวงมาเรื่อยๆจนเค้าบอกว่าถ้าไม่จ่ายจะส่งชื่อเข้าเครดิตบูโร เราต้องทำอย่างไรบ้างค่ะ แล้วจะทำให้เราเสียเครดิตไม่สามารถทำธุรกรรมต่างๆ เลยหรือเปล่าค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่าต้องกู้เงินสักที่มาโปะหนี้ให้เหลือเพียงอย่างเดียว เท่าที่ดูๆ แล้วไม่สามารถมีที่ไหนที่ให้กู้ได้เลยค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะแนะนำได้บ้างไหมค่ะ ขอบคุณค่ะ/ Phat

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Phat …
      ที่คุณถามว่าค่าโทรศัพท์มือถือจะมีปัญหามั้ย ตอบเลยนะครับว่าถ้าเป็นในปัจจุบันมีแน่ๆครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนย้อนไปซัก 4-5ปี คงไม่เป็นไร แต่เดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือทุกค่ายเข้าระบบเครดิตบูโรหมดแล้วครับ ดังนั้นคุณต้องลองไปเช็คเครดิตของคุณดูครับ เพราะผลการเช็คจะบอกคุณทั้งหมดว่ามียอดค้างกับที่ใดบ้าง ส่วนเรื่องที่ว่าจะมีผลต่อการทำธุรกรรมต่างๆรึเปล่า ตอบนะครับว่ามีแน่ แต่ยังไงก็ตามลองดูก่อนนะครับว่าคุณเป็นหนี้กับที่ไหนบ้างถ้ามันไม่มากจนเกินไปก็ค่อยๆใช้คืนเค้าไปครับ แต่ถ้ามันมากจนจ่ายไม่ไหวก็ต้องลองมองหาทางอื่นดูครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดของเรื่องค่าโทรศัพท์มือถือ ผมจะโพสเรื่องให้อ่านที่หน้าเวปเลยนะครับจะได้เข้าใจระบบของหนี้ประเภทนี้
      *หมายเหตุ เรื่องการเช็คเครดิตบูโรทำได้หลายวิธีถ้าสนใจเข้าไปอ่านได้ที่หัวข้อการตรวจสอบเครดิตที่หน้าเวปได้เลยนะครับ ขอบคุณมากครับ / Sheep

  15. เรียนคุณ sheep

    กระผมเป็นบุคคลหนึ่งที่มีปัญหาทางด้านการเงินโดยกระผมรบกวนขอคำแนะนำจากท่าน โดยปัจจุบันผมมีรายได้จากการทำงานเดือนล่ะ 10000 บาท ซึ่งหักค่าให้จ่ายประจำทุก ๆ เดือน คือ ค่าเช่าห้องพัก+ค่าน้ำ+ค่าไฟ รวม 3500 บาท คงเหลือ 6500 บาท ในการใช้จ่ายต่อเดือน เนื่องจากขณะนี้มีภาระหนี้กับสถาบันการเงินดังต่อไปนี้ (โดยประมาณนะครับ)
    1.ktc (บัตรกดเงินสด) จำนวน 26000 บาท
    2.citi bank เรดดี้เครดิต (บัตรกดเงินสด) จำนวน 31500 บาท
    3.First Choice จำนวน 20000 บาท ซึ่งแบ่งชำระรายเดือน จำนวน 1200 บาท ต่อเดือน
    รวมเป็นเงินทั้งสินโดยประมาณ 77500 บาท ในการชำระเงินแต่ล่ะครั้งเป็นการชำระเงินชั้นต่ำของยอดบัญชีที่เรียกเก็บจำทำให้บางรายการดอกเบี่ยมากว่าเงินต้น ซึ่งกระผมมีความคิดที่จะหาเงินการที่อื่นมาทำการชำระทั้งหมดให้เร็วที่สุดแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่สามารถหาเงินมาได้ จึงทำให้กระผมค่อนข้างมีความกังวลในเรืองของกำลังเงินของผมในปัจจุบันซึ่งไม่มีเงินเก็บเลยเพราะใช้ชนเดือนมาตลอด กระผมขอคำปรึกษาและข้อเสนอแนะว่าทำอย่างไรเพื่อที่จะทำการชำระหนี้สิ้นให้หมดโดยเร็วและเสียเปรียบสถานบันการเงินน้อยที่สุดครับ แต่กระผมตั้งเป้าหมายไว้ว่า ไม่เกินสิ้นปี จะต้องทำการปิดบัตรให้ได้ 1 ใบ แต่ถ้าไม่ไว้จริง ๆ ผมจะหยุดจ่ายก่อนดีไหมครับ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ อดทน ทนอด…
      จากที่คุณเล่ามานั้นผมคิดว่ามีวิธีจัดการได้อยู่ 3 แบบนะครับ
      1.คือการรวมหนี้แบบที่ผมเคยพูดมาครับ คุณลองเช็คกับธนาคารต่างๆดูนะครับว่าเค้าพร้อมที่จะรับเรื่องของคุณได้มั้ย ถ้าเครติดของคุณยังไม่เสียมากผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องยากนะครับ เพราะยอดหนี้รวมของคุณอยู่ที่ 77,500 ซึ่งในระบบธนาคารยังไม่ถือว่าเป็นยอดหนี้ที่สูงมากนัก
      2.เนื่องจากที่คุณเล่ามาว่าคุณตั้งเป้าหมายไว้ที่ปลายปีจะต้องปิดบัตรให้ได้ 1 ใบ ยินดีต้วยครับถือว่าเป็นเป้าหมายที่ดีที่คุณมีระบบความคิดในการจัดการหนี้ไปในทาง+ ดังนั้นถ้าคุณจะทำวิธีนี้คุณคงจะต้อง อดทน และ ทนอด เหมือนกับชื่อที่คุณใช้นะครับ จากที่คุณได้เล่ามา เงินเหลือต่อเดือนของคุณอยู่ที่ 6,500 บาท และกว่าจะถึงสิ้นปีจะเหลือเวลาประมาณ 7-8 เดือน ดังนั้นถ้าคุณจ่าย First Choice 1,200 เงินคุณจะเหลือ 5,300 ผมแนะนำให้คุณหักเงินออกมาเพิ่มซัก 2,000ต่อเดือนมาเก็บไว้นะครับ และคุณก็จะเหลือเงินต่อเดือนอยู่ 3,300 ถ้าใช้ประหยัดๆก็น่าจะอยู่ได้นะครับ พอถึงสิ้นปีคุณก็จะมีเงินก้อนนึงที่เก็บไว้เพื่อจ่ายหนี้โดยเฉพาะจากเงิน 2,000 ที่คุณได้เก็บเพิ่มไว้ต่อเดือน รวมแล้วก็น่าจะประมาณ 16,000 ทีนี้สิ้นปีก็รับรองได้ครับว่าอย่างน้อย บัตรFirst Choiceก็จะปิดบัญชีได้อย่างแน่นอน
      *หมายเหตุ บัตรอีก 2ใบ ปล่อยไปก่อนเลยครับคิดแล้วปวดหัวเอาทีละบัตรเลยดีกว่า ไว้ปีหน้าค่อยจัดการครับ เอาตามกำลังที่เราไหว อย่างน้อยถ้าทำในลักษณะนี้ ไม่เกิน3ปีคุณก็หมดหนี้แล้วครับ
      3.หยุดจ่ายไปเลยครับ ถ้าคุณคิดว่าไม่ไหวจริงๆนะ แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆผมก็ไม่แนะนำนะครับ เพราะถึงเราจะจ่ายให้เค้าน้อยแต่วันนึงมันก็หมด แต่ถ้าไม่จ่ายเลยยังไงซะวันนึงมันต้องเกิดปัญหาแน่ๆครับ
      ขอบคุณมากนะครับคุณ อดทน ทนอด เราเป็นกำลังใจให้คุณนะครับ / Sheep

  16. เรียน คุณ sheep
    ก่อนอื่นขอขอบพระคุณ ณ ไว้โอกาสนี้ครับสำหรับคำแนะนำและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ อยากเรียนอย่างนี้ครับ อย่างที่คุณ sheep ในประเด็น “หมายเหตุ บัตรอีก 2 ใบ ปล่อยไปก่อนเลยครับคิดแล้วปวดหัวเอาทีละบัตรเลยดีกว่า” กล่าวคือ ให้กระผมหยุดจ่ายไปก่อนใช่หรือไม ถ้าทำการหยุดจ่ายบัตรทั้ง 2 ใบ ก็ทำให้ปัญญาในเรื่องของการถวงหนี้หรือเป็นคดีเกิดขึ้นตามมาถูกต้องไม่ครับ ซึ่งอาจจะกระทบต่อการงานของกระผมก็เป็นได้ ปัจจุบันแต่ละเดือนกระผมแบ่งการชำระเงินดังนี้ (โดยประมาณและไม่เคยชำระล่าช้า)
    1.ktc(บัตรกดเงินสด)ยอดชำระขั้นต่ำ 700 บาท ทำการชำระ 1000 บาท
    2.citi bank เรดดี้เครดิต (บัตรกดเงินสด) ยอดชำระขั้นต่ำ 1300 บาท ทำการชำระ 1500 บาท
    3.First Choice (สินเชื่อเงินสดแบบชำระรายเดือน)ยอดชำระขั้นต่ำ 1200 บาท ทำการชำระ 1200 บาท
    จะเห็นได้ว่ากระผมทำการชำระเงินแต่ล่ะเดือนรวมเป็น จำนวน 3700 บาท ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากระผมมีเงินคงเหลือ 2800-3000 บาท เพื่อที่จะใช้จ่ายในแต่ล่ะเดือน โดยบางเดือนมีการทำงานล่วงเวลา ซึ่งเป็นเงินไม่มากนัก ก็นำมาใส่กระปุ้กออมสิน เพื่อเก็บเป็นเงินก้อนเล็ก ๆ เพื่ออาจนำมาใช้ในเวลาฉุกเฉินหรือเงินไม่พอใช้จริง ๆ รวมถึงนำไปชำระหนี้ดังกล่าว
    ดังที่กล่าวไปคราวก่อนว่ากระผมมีความคิดที่ทำการปิดบัตร 1 ใบ ก่อนสิ้นปี รบกวนคุณ sheep ให้ข้อคิดเห็นกับเรื่องของการชำระเงินของกระผมอย่างไร ข้อเสนอแนะที่ถูกวิธีในการชำระเงิน เพื่อที่จะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้โดยเร็ว
    ด้วยความเคารพอย่างสูง

    • sheep said

      สวัสดีอีกครั้งนะครับคุณ อดทน ทนอด…
      ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ เอาล่ะเมื่อผมเริ่มรู้ข้อมูลของคุณเพิ่มขึ้นแล้ว เรามาต่อกันเลยนะครับ เนื่องจากที่คุณเล่ามาคุณยังมีการจ่ายเงินคืนให้กับทั้ง 3 บัตรอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเครดิตของคุณจึงยังคงที่จะสามารถทำเรื่องในการขอปรับโครงสร้างหนี้กับทางธนาคารต่างๆได้ ซึ่งข้อดีของการปรับโครงสร้างหนี้นั้นคือ เราสามารถที่จะปิดบัญชีเก่าทั้ง 3 บัญชี เพื่อที่จะให้เหลือบัญชีใหม่เพียงที่เดียว ซึ่งเป็นวิธีการที่ทางธนาคารเค้าเรียกกันว่าการ recredit หรือถ้าตามภาษาเรานั้นก็คือ จัดระบบเรียบเรียงหนี้เสียให้กลับมาเป็นหนี้ดีตามระบบอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้คุณกลับมามีเครดิตที่ดีได้อีกครั้ง และข้อดีอีกข้อของการปรับโครงสร้างหนี้นั้นก็คือ ทำให้สามารถยืดระยะเวลาในการชำระหนี้ได้นานขึ้น และจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายต่อเดือนจะลดลง ถึงแม้ว่าอาจจะลดลงไม่มากนัก แต่ก็น่าจะพอให้เราได้ลืมตาอ้าปากกันได้นะครับ
      ระบบในการคิดอัตราในการปรับโครงสร้างหนี้นั้นจะเป็นในลักษณะนี้นะครับ
      1.ระยะเวลาในการชำระนาน = จำนวนเงินที่จ่ายต่องวดต่ำ = จำนวนดอกเบี้ยสูง
      2.ระยะเวลาในการชำระสั้น = จำนวนเงินที่จ่ายต่องวดสูง = จำนวนดอกเบี้ยต่ำ
      *หมายเหตุ ระยะเวลาในการชำระนั้นขึ้นอยู่กับแบบในการจัดการหนี้ของแต่ละธนาคาร อาจจะอยู่ที่ 12 ถึง 50 งวด ข้อมูลเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามความต้องการของการตลาดซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้อยู่เรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบกับทางธนาคารต่างๆโดยตรงนะครับถึงจะได้ข้อมูลเรื่องแบบแผนการปรับโครงสร้างหนี้รวมถึงระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนนะครับ
      *ส่วนเรื่องของการที่ว่าถ้าจะไม่จ่ายบัตรใดบัตรหนึ่งนั้นจะเป็นปัญหารึเปล่านั้น คำตอบคือเป็นปัญหาแน่ๆครับแต่ข้อดีของบัตรกดเงินสดก็คือระยะเวลาในการติดตามหนี้นั้นจะนานกว่าหนี้บัตรเครดิตทั่วๆไปดังนั้นจึงใช้เวลาค่อนข้างนานครับกว่าจะมีการฟ้อง ผมจึงได้บอกไปว่าถ้าจะปล่อยบัตรอื่นไปก่อนก็ได้ เอาแบบที่เราสบายใจดีกว่าครับเครียดมากมันจะไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ ขอบคุณมากครับ / Sheep

  17. สวัสดีอีกครับคุณ sheep จากที่ท่านแนะนำเรื่องการ recredit วันนี้ผมพอมีเวลานิดหน่อย จึงได้เดินทางไปสอบถามธนาคาร ตามที่ท่านแนะนำ ได้แก่ ไทยธนาคาร ไทยพาณิชย์ และนครหลวงไทย แล้วนั้น พบว่าทางธนาคารไม่มีนโยบายในเรื่องของการ recredit ทางธนาคารแนะนำว่าให้กระผมลองสมัครสินเชื่อ แบบ LOAN คือ ผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือนเท่ากันทุกเดือน โดยดอกเบี้ย 28% ต่อปี สมมุติ ส่งใบสมัครและธนาคารพิจารณาอนุมัติผ่าน ก็นำเงินสดมาชำระหนี้ต่อไป กระผมคิดว่าขณะนี้ผมก็ยังยอดที่ต้องชำระกับสถาบันการเงินอยู่ 3 สถาบัน เมื่อกระผมทำการสมัคร ก็คงคิดว่าคงไม่ผ่านการอนุมัติครับ ไม่ทราบในเรื่องนี้คุณ sheep มึความคิดเห็นอย่างไร รวมถึงสถาบันการเงินแห่งใดบ้างที่ที่มีการบริการของเรื่องการ recredit เพื่อกระผมจะได้รับทราบเบื้องต้น และพร้อมจะดำเนินงานต่อไป ขอแสดงความนับถือ

  18. สวัสดีครับ..วันนี้แวะเวียนมาเยี่ยมมาทักทายครับ…จากคำแนะนำจากท่านและจากการเข้าชมเวปไซของท่านนั้น ทำให้ผมเกิดมีกำลังใจในการชำระหนี้ได้เป้นอย่างมากครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ ขณะนี้ผมก็กำลังทยอยใช้ภาระหนี้สิ้นที่เป็นอยู่คงไม่ค้างชำระ..แต่ต้องประหยัดเป็นการมาก ไม่เกิดสิ้นปีนี้ผมคงปิดบัตรได้ 1 ใบเป้นอันแน่นอนครับ..ตั้งใจไว้ว่า ไม่เกิน 2 ปี หนี้สินที่มีคงหมด…อย่างไงถ้ามีอะไรทางกระผมจะมาข้อความปรึกษากับท่านอีกครั้งนะครับ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ อดทน ทนอด…
      ผมต้องขอโทษทุกๆท่านด้วยนะครับที่หายไปค่อนข้างจะนาน พอดีว่าผมต้องไปทำธุระที่ต่างประเทศ เพื่งกลับมาได้ไม่กี่วัน แต่ไม่ต้องกังวลนะครับว่าผมจะเอาไข้หวัดเม็กซิโก มาฝากเพื่อนๆทุกท่านด้วยรึเปล่า ผมไปตรวจมาแล้ว ผลไม่เป็นอะไรครับทุกๆท่าน (พอดีว่าผมไปแค่เวียดนามเอง ไม่ได้ไปไหนไกลมากมายเลย 555+) ครับผมก็รู้สึกดีใจด้วยนะครับที่คำแนะนำเล็กๆน้อยๆของผมสามารถ ทำให้หลายๆคน รู้สึกดีขึ้นได้ ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้มานะครับ และผมจะพยายามลงข้อคิดต่างๆเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณอีกครั้ง / Sheep…

  19. จินนี่ said

    สวัสดีค่ะ คุณ sheep

    ดิฉันเพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรกค่ะ รู้สึกว่าเว็ปนี้มีประโยชน์มากๆเลย
    ส่วนตัวแล้วดิฉันก็มีปัญหาเหมือนกันค่ะ คือว่าดิฉันได้ถูกบริษัทเครื่อข่ายโทรศัพท์แห่งนึง ชื่อคล้ายวัวควายบ้านเราน่ะค่ะ
    แจ้งเตือนการใช้ค่าบริการโทรศัพท์มือถือแบบจดทะเบียนเกินวงเงิน ซึ่งค่อนข้างเยอะค่ะ เป็นจำนวนเงิน 28,000บาทค่ะ สองหมื่นแปดพัน
    แต่ยังไม่ถึงกำหนดชำระค่ำ อีกประมาณ 10วัน ตอนนี้เครียดมากๆเลย อยากจะต่อรองกับเค้าน่ะคะ เพราะมันเยอะเกิน

    คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ดิฉันใช้มือถือที่มี 3G โดยใช้บริการแบบเหมาจ่ายรายเดือนค่าโทรและใช้ 3G เป็นเงิน599บาท แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า
    วันที่26 เมษายน 51- วันที่ 5พฤษภาคม51 ดิฉันไปธุระที่จีนค่ะ แล้วนำมือถือไปใช้ด้วย โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนไป
    โดยวันที่ 1 พฤษภาคม 51ค่ะ ทางเครือข่ายได้ตัดสัญญานการใช้มือถือของดิฉัน โดยมีข้อความแจ้งว่า ดิฉันใช้ค่าบริการเกินวงเงินที่ให้
    โดยสามารถรับสายได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถโทรออกและใช้บริการ 3G ได้

    พอกลับมาเมืองไทย ดิฉันก็เลยเข้าไปที่ศูนย์บริการค่ะเพื่อสอบถาม โดยนำรายการค่าใช้จ่ายมาดู ปรากฎว่าวันที่อยุ่จีนวันแรก
    คือวันที่ 26 มีค่าบริการ 600(ร้อย) กว่าบาท แต่วันที่ 27-30 มีค่าบริการ 28,000 บาท (เครื่องนี้ มีการรับเสียสั้นๆเพียงแค่ 5ครั้ง จากไทยค่ะ
    และเปิดเมลล์บ้างเล็กน้อย) ดิฉันได้พยายามต่อรองกับทางพนักงานเครือข่ายแล้วค่ะ คืออยากให้ลดค่าใช้จ่ายตรงนี้หน่อย เพราะส่วนตัว
    คิดว่ามันมากเกินไป แล้วเราก็รู้สึกว่าไม่ได้ใช้อะไรเยอะขนาดนั้น คือราคาที่เรายอมชำระได้ 5พันบาทค่ะ แต่ทางศูนย์บริการไม่ยอมค่ะ

    จากตรงนี้อยากขอให้คุณ sheep แนะนำดิฉันด้วยนะคะ เครียดมากเลย ดิฉันต้องทำอย่างไรดีคะ เคสของดิฉัน ดิฉันว่าเค้าคุ้มค่าที่จะฟ้องเราแน่ๆ
    ถ้าไม่ไปชำระ แล้วก็จะติด แบล๊คลิส ด้วย เครียดค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ตอบให้ทางเมล์ก้อได้ค่ะ หรือจะเอาลงที่นี่ใว้เป็นกรณีศึกษาก็ได้ค่ะ

    ขอบคุณมากค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ จินนี่…
      จากเรื่องที่คุณได้เล่ามานั้น เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นบ่อยครับ และก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก สิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้ไปนะครับ คุณจินนี่ต้องมีสติและทำใจเย็นๆ เพราะเรื่องนี้ต้องค่อยๆแก้ไข จากความคิดผม ผมคิดว่าเรื่องเงินคงไม่ใช้เรื่องใหญ่สำหรับคุณจินนี่มากนักแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเราทุกคนคงจะไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบเราแบบนี้แน่ๆ ครับอย่างแรกนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าเงินจำนวน 28,000 ที่เค้าคิดนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร ถ้าเราใช้จริงหรือเผลอใช้โดยไม่รู้ เราก็คงจะต้องจ่ายคืนเค้า แต่ถ้าสาเหตุนั้นไม่ได้เกิดจากเรา แต่อาจเกิดจากความผิดพลาดของทางระบบเครือข่ายเอง เราก็ไม่สมควรจะต้องรับผิดชอบ ดังนั้นลองเช็คดูให้ดีครับ ต่อมาสมมุติว่าเรื่องทั้งหมดผิดที่เค้า เราก็ต้องเข้าไปคุยกับทางสำนักงานใหญ่เค้าเลยครับ เพราะถ้าโทรคุยหรือว่าเข้าไปคุยกับพวกสาขาย่อย มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ อย่างน้อยก็ต้องให้ทางผู้ใหญ่ของบริษัทนั้นๆเขารู้ถึงปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าทำอย่างที่ผมพูดไปแล้ว ทุกอย่างยังไม่ดีขึ้น คุณจินนี่ลองติดต่อปรึกษา สคบ.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ดูสิครับ ว่าจากเหตุการที่เกิดขึ้นนี้ สคบ.จะสามารถ ช่วยอะไรเราได้บ้าง…
      ลองทำตามนี้ดูนะครับ แล้วถ้าสงสัยตรงไหนก็เข้ามาพูดคุยกันได้ครับ… / Sheep

  20. ช่วยด้วยคะ said

    ดิฉันเป็นหนี้ Quick cash 15000 บาท
    Ktc 20000 บาท (บัตรกดเงินสด)
    ก่อนหน้านี้ 2-3 ปี ดิฉันจ่ายขั้นต่ำตลอดเลยคะ แต่ตอนนี้ ดิฉันไม่สามารถจ่ายขั้นต่ำได้แล้วมาเป็นเวลา 6-7 เดือน แล้วก็มีบริษัทวงหนี้ โทรมาตลอดเลย โทรมาที่ทำงานด้วยคะ ดิฉันก็ได้แต่บ่ายเบี่ยงว่า ไม่มีคนชื่อนี้ แล้วเค้าก็ขอสายฝ่ายบุคคล ด้วยคะ (ดิฉันจิตตก กลัวมากเลย) ดิฉันมีคำถามอ่ะคะ

    1. เวลาที่บริษัททวงหนี้ โทรมา ดิฉันควรจะบ่ายเบี่ยงไป หรือ คุยกะเค้าไปตามตรง อันไหน มันจะมีประโยชน์ แก่ดิฉันมากกว่ากันคะ
    2. ถ้าดิฉันไม่ติดต่อใดๆ กับบริษัททวงหนี้หรือธนาคารเลย อีกนานเท่าไรคะ คดีความถึงจะหมดอายุความ
    3. บริษัททวงหนี้ เคยเสนอจะประนอมหนี้ดิฉันคะ แต่ก็เสนอยอดชำระแต่ละเดือน ซึ่งดิฉันไม่สามารถชำระได้ ดิฉันอยากจะต่อรองได้หรือเปล่าคะ
    4. สิ้นปีนี้ ดิฉันได้โบนัสมา ก็คิดว่าจะเอาไปโปะหนี้ ทางธนาคาร หรือ บริษัท ทวงหนี้ เค้าจะให้เวลาต่อไปหรือป่าวคะ

    รบกวนตอบทีคะ

    • sheep said

      สวัสดีดีครับคุณ …
      อย่าพึ่งเครียดไปครับ ฟังจากเรื่องราวที่เล่ามานั้น พอจะหาทางแก้ไขกันได้ครับ ผมเรื่อมตอยคำถามเลยละกันนะครับ

      1. เวลาที่บริษัททวงหนี้ โทรมา ดิฉันควรจะบ่ายเบี่ยงไป หรือ คุยกะเค้าไปตามตรง อันไหน มันจะมีประโยชน์ แก่ดิฉันมากกว่ากันคะ

      ตอบ จริงๆแล้วควรจะพูดคุยกับเค้าไปตามตรงเลยจะดีกว่านะครับ แต่ถ้าที่ผ่านมาได้บอกเค้าไปแล้วว่าที่บริษัทนี้ไม่มีพนักงานชื่อนี้ งั้นก็เลยตามเลยไปก็แล้วกันครับ เพราะถ้าเราไปกลับคำบอกว่าเรายังอยู่ที่บริษัทนี้มันดูจะไม่ค่อยดีน่ะครับ เผลอๆจะโดนเค้าว่าเอาได้ ผมขอแนะนำอย่างนึงนะครับถ้าคุณกลัวว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหากับบริษัท ทางแก้ง่ายๆอย่างนึงก็คือ ให้ใครซักคนในบริษัทโทรกลับไปเบอร์ที่เค้าใช้โทรมา แล้วบอกเค้าไปเลยว่า คนๆนี้ไม่ได้อยู่ที่นี้หรือไม่ก็ บอกเค้าไปว่าคนๆนี้ลาออกไปนานแล้ว ชอบโทรมากันอยู่ได้ แล้วก็ให้เค้าช่วยลงข้อมูลไปในระบบด้วยเลยว่าที่นี้ไม่มีคนๆนี้อีกแล้ว นี่แหละครับผมคิดว่าน่าจะดีขึ้นนะครับ

      2. ถ้าดิฉันไม่ติดต่อใดๆ กับบริษัททวงหนี้หรือธนาคารเลย อีกนานเท่าไรคะ คดีความถึงจะหมดอายุความ

      ตอบ อย่าพึ่งไปกังวลครับ เพราะถ้าเค้าจะฟ้อง เค้าก็ต้องมีจดหมายมาบอกเราก่อน ย้ำนะครับว่าต้องเป็นจดหมายฟ้องจริงๆไม่ใช้พวกโนติสที่เค้าใช้ส่งมาขู่ ส่วนเรื่องที่ว่าสิ้นปีได้โบนัสมาแล้วจะใช้คืนนั้นผมคิดว่าทันนะครับ แล้วอาจจะขอส่วนลดได้อีกด้วย ใจเย็นๆนะครับ…

      3. บริษัททวงหนี้ เคยเสนอจะประนอมหนี้ดิฉันคะ แต่ก็เสนอยอดชำระแต่ละเดือน ซึ่งดิฉันไม่สามารถชำระได้ ดิฉันอยากจะต่อรองได้หรือเปล่าคะ

      ตอบ ถ้าเรายังไม่สามารถจ่ายได้ก็ยังไม่ต้องคุยหรอกครับ ถ้าจ่ายไม่ได้ก็คือจ่ายไม่ได้ จิงมั้ยครับ ผมว่ารอให้คุณมีเงินอยู่ในมือแล้วค่อยคุยดีกว่าครับ เพราะถ้าเรามีเงินก็จะคุยง่ายครับทั้งเรื่องส่วนลดเรื่องดอกเบี้ยพวกเนี้ย

      4. สิ้นปีนี้ ดิฉันได้โบนัสมา ก็คิดว่าจะเอาไปโปะหนี้ ทางธนาคาร หรือ บริษัท ทวงหนี้ เค้าจะให้เวลาต่อไปหรือป่าวคะ

      ตอบ อย่างที่ตอบไปแล้วครับ ถ้านับจากเวลาที่เล่ามานั้น ผมคิดว่าทันนะครับ คงไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่ต้องแน่ใจนะครับว่าสิ้นปีจะสามารถจ่ายคืนเค้าได้จริงๆ

      กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญนะครับอย่าพึ่งท้อเพราะทางเราจะเป็นกำลังใจให้คุณครับ / Sheep

  21. Boom said

    มาครั้งแรกเหมือนกัน ขอคำแนะนำนิดนึงนะค่ะ
    หนูเป็นหนี้ personal loan ของทหารไทยอยู่
    ประมาณสองหมื่นกว่าบาท รวมดอกก็ประมาณ สามหมื่นต้นๆ
    แต่แปลกใจมากค่ะ
    ขาดส่งมาเป็นปีๆ แล้วไม่เห็นมีการติดตามใดๆ เลย
    มันมีอะไรที่หนูไม่ทราบป่าวค่ะ ว่าทำไมเค้าเงียบไป
    เคยมีโทรมาทวงเหมือนกัน
    ตอนนั้นก็ขอลดหนี้ไป เห็นบอกเป็นสำนักงานกฎหมาย
    แต่หลังจากนั้นก็เงียบจนทุกวันนี้
    ชักไม่สบายใจแล้วค่ะ ไม่มีจดหมายด้วย
    รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ
    ว่าจะทำอย่างไร

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Boom…
      ครับจากที่คุณ Boom ได้เล่ามานั้น ที่ว่าทำไมเรื่องถึงได้เงียบไป สาเหตุคงเกิดจากบัญชีหนี้ของคุณนั้นคงจะเปลี่ยนสถานที่ในการติดตาม พูดให้ชัดก็คือ เมื่อสำนักงานกฎหมายเดิมไม่สามารถติดตามหนี้คืนได้ บัญชีหนี้นั้นๆก็จะถูกย้ายไปให้สำนักงานกฎหมายอื่นติดตาม ระบบมันจะเป็นแบบนี้ครับ ส่วนเรื่องที่ไม่มีใครโทรมาหรือไม่มีจดหมายมาหานั้น อาจเป็นได้ว่า ถ้าบัญชีหนี้ของคุณถูกย้ายสำนักงานกฎหมายในการติดตาม บัญชีหนี้ของคุณอาจจะยังไม่ได้ถูกแจกจ่ายไปให้กับพนักงานติดตามหนี้คนใหม่ หรือไม่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า สำนักงานกฎหมายใหม่ที่ได้รับบัญชีหนี้ของคุณไปนั้นอาจจะเห็นข้อมูลเก่าของคุณว่าติดตามหนี้ยากหรือบัญชีเคยไม่มีการจ่ายเข้ามาเป็นเวลานาน จึงเห็นว่าคงจะเก็บหนี้คืนได้ยากจึงไม่มีการติดต่อมาหาคุณ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำก็คือ ถ้าคุณสามารถที่จะจ่ายหนี้คืนเค้าได้ก็ให้ติดต่อกลับไปที่ธนาคารเลยครับ หรือถ้ายังไม่สามารถจ่ายได้ก็ทำตัวเงียบไว้ แล้วเก็บเงินไว้เมื่อพร้อมก็ค่อยจ่ายคืนเค้าน่ะครับ
      ขอบคุณมากนะครับ / Sheep

  22. Boom said

    ขอบคุณมากๆ ค่ะ แต่ก็มีเรื่องตลกจะเล่าให้ฟัง หลังจากที่หนูลองเข้ามาปรึกษา พอตอนเช้าวันที่ 19 ก็มีคนจากสำนักงานกฎหมายโทรมาเลยค่ะ แต่รับสายไม่ทัน หลังจากนั้นหนูก็โทรเข้าไปที่ธนาคาร ธนาคารบอกว่าให้ติ

  23. Boom said

    ทางธนาคารบอกว่าให้ติดต่อกลับไปที่สำนักงานกฎหมายก็ลองติดต่อกลับไป มีเจ้าหน้าที่รับ แล้วก็แจ้งยอดประมาณ 32000 คงรวมทุกอย่างแล้ว

    พูดสุภาพดีนะค่ะ แล้วก็บอกว่า หาเงินมาจ่ายได้มั้ย เพราะถ้าสามารถปิดได้ จะจ่ายเพียง 27000 เท่านั้น น่าจะลองไปหาเงินมานะ แต่เค้าบอกว่าอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมให้
    ติดต่อกับอีกคนที่ดูแลบัญชีหนูอยู่ พอโอนสายไปไม่ติด ก็เลยจบลงแค่นั้น

    คุณ Sheep ให้คำแนะนำว่าควรเงียบไว้ หรือหนูควรจะหาเงินมาจ่ายดีค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ติดขัดนิดหน่อยหากต้องหาเงินมาทั้งก่อน คงต้องประมาณกลางเดือนหน้าอาจจะพอมี

    แล้วถ้าชำระไปแล้วจะถูกลบชื่อจาก credit บูโรม้ัยค่ะ
    รบกวนถามเท่านี้ก่อนขอบคุณพี่มากๆ นะค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีอีกครั้งนะครับคุณ Boom…
      คือถ้าคุณจ่ายไหวก็จ่ายเค้าไปเถอะครับ เรื่องจะได้จบ แล้วก็จะได้ไม่ปวดหัวน่ะครับ แต่ถ้าจะปิดจบหนี้นั้นผมว่าราคาส่วนลดมันน่าจะได้มากกว่านั้นน้า ยังไงก็ลองเข้าไปดูที่หัวข้อ การปิดจบหนี้ดูนะ เผื่อจะมีข้อมูลอะไรดีๆน่ะครับ ส่วนเรื่องเครติดบูโร ไม่ต้องห่วงนะครับ เมื่อคุณจ่ายเค้าหมดแล้ว เอาหนังสือยืนยันการปิดจบหนี้ไปยื้นเรื่องขอลบชื่อได้ครับ ไม่มีปัญหา ยังไงก็นอนหลับฝันดีนะครับคุณ Boom …
      ขอบคุณอีกครั้งนะครับ / Sheep

  24. blue said

    ดิฉันมีบัตรเครดิตหลายใบ รวมทั้งมีหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลด้วย ในส่วนของบัตรเครดิตได้หยุดจ่ายไปหลายใบค่ะ ที่ยังจ่ายอยู่ก็เป็นลักษณะจ่ายแล้วกดมาวนไปจ่ายอีกบัตร ที่ผ่านมาก็ได้รับจดหมายทวงหนี้จากสนง.กฎหมายหลายครั้งแต่ดิฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรและไม่ได้ติดต่อธนาคารด้วยเพราะรู้ตัวว่าไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่าย อ้อ! ลืมบอกไปว่าตอนนี้ดิฉันผ่อนบ้านร่วมกับพี่สาวอยู่ด้วย ผ่อนมาจะ 3 ปีแล้ว พี่สาวเป็นผู้กู้หลักค่ะ จนวันนี้ได้รับหมายศาล (มาเป็นปึกใหญ่เลย) แจ้งให้ไปศาลเพื่อการไกล่เกลี่ย ให้การและสืบพยานในวันที่ 20 ก.ค.นี้ โดยบ.บัตรกรุงไทยเป็นโจทก์ฟ้องร้องให้ดิฉันชำระเงินทั้งสิ้น 78,842.72 บาท จากบัตรเครดิต 2 ใบ และสินเชื่อส่วนบุคคล ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ เครียดมากเพราะไม่อยากไปที่ศาลเลยบอกตรงๆ ว่ากลัวค่ะ ไม่รู้ว่าไปแล้วต้องทำอะไรยังไงและต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ในเอกสารแจ้งไว้ว่าถ้าดิฉันประสงค์จะให้ศาลไกล่เกลี่ยประนีประนอมให้ติดต่องานไกล่เกลี่ยฯ ที่ศาลตามเบอร์โทรที่เค้าระบุไว้ ทีนี้ถ้าดิฉันจะโทรไปเพื่อขอต่อรองว่าขอชำระหนี้แค่จำนวนเงินต้น(เกือบ 5 หมื่น) โดยจะไม่เข้าไปที่ศาลจะเป็นไปได้หรือไม่คะ และกรณีแบบนี้คุณ sheep คิดว่าพอจะเป็นไปได้มั้ยคะที่ธนาคารจะยอมให้ดิฉันจ่ายแค่เงินต้น..รออ่านคำตอบอยู่นะคะ ขอบคุณค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ blue…
      เอาล่ะครับ เข้าเรื่องกันเลยนะครับ จากที่คุณblue ได้ถามมานั้น ยังเป็นไปได้นะครับที่เค้าจะยอมให้จ่ายในราคาเงินต้น แต่ผมย้ำนะครับว่าคุณจะต้องติดต่อไปที่ธนาคารสำนักงานใหญ่ แล้วแจ้งเค้าไปว่าทางเราขอทำการตกลงจบหนี้ก่อนที่ศาลจะนัดไกล่เกลี่ย เพราะถ้าคุณติดต่อไปคุยกับทางทนายฝ่ายตรงข้ามคุณอาจจะเสียรู้เขาก็ได้ (ถ้าเจอที่ดีก็ดีไปน่ะครับ แต่ถ้าเจอพวกหัวหมอเดี๋ยวจะไม่ทันเค้า) แต่ถ้าจำเป็นต้องคุยก็หาเพื่อนที่พอรู้กฎหมายอยู่ด้วยก็ดีนะครับ จะได้พอป้องกันได้บ้าง ถ้าจะคิดตามหลักการของธนาคารนะครับ ทางเค้ายังสามารถที่จะทำส่วนลดให้กับคุณ blue ได้อยู่ครับ ดังนั้นลองติดต่อไปคุยดูนะครับ ยังไงผมก็เอาใจช่วยนะครับ / Sheep

  25. blue said

    ขอบคุณมากค่ะคุณ sheep ที่เข้ามาตอบ พี่สาวดิฉันได้โทรไปคุยกับบริษัทบัตรกรุงไทยเรียบร้อยแล้วค่ะ พอดีพี่สาวมีเพื่อนเป็นทนายและเค้าได้แนะนำแบบที่คุณ sheep แนะนำคือให้โทรไปคุยกับแบงค์ก่อน ซึ่งเค้าก็ลดให้โดยแจ้งยอดชำระอยู่ที่ 5-5.5 หมื่น โดยให้แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด และเค้าจะถอนฟ้อง พี่สาวเลยช่วยออกเงินตรงนี้ให้ก่อนน่ะค่ะ โดยงวดที่ 2 ที่จะชำระคืนพี่สาวให้ดิฉันไปจ่ายที่สนญ.เพื่อให้ทางนั้นออกเอกสารลบหนี้ไว้เป็นหลักฐาน(ไม่แน่ใจว่าเรียกอย่างไร)ตอนนี้พี่สาวดิฉันช่วยจัดระบบการจัดการกับหนี้ทั้งหลายให้ดิฉันอยู่ โดยให้ดิฉันเคลียร์ทีละบัตรจะได้ไม่จ่ายเป็นเบี้ยหัวแตกจ่ายแล้วก็กดออกมาวนอยู่แบบเดิมอีก ตอนนี้ดิฉันต้องหยุดจ่ายบัตร 2 ใบเพื่อรอเก็บเงินก้อนเอาไปปิดบัญชีทีเดียว คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าช่วงนี้อีกแล้วมั้งคะ ยังไงก็ขอขอบคุณคุณ sheep อีกครั้งนะคะที่เอาใจช่วย…ขอบคุณค่ะ

  26. blue said

    อ้อ! ลืมเล่าไปค่ะว่าบัตรอื่นๆ ที่ดิฉันหยุดจ่ายไปเกือบ 2 ปี พี่สาวก็ได้โทรไปเจรจากับสนง.กฎหมายที่ส่งเอกสารมา ซึ่งแต่ละบัตรก็ได้ส่วนลดเป็นที่น่าพอใจ แต่พี่สาวดิฉันเห็นว่าถ้ายังไม่ชำระแล้วเจรจาใหม่บางทีอาจได้ส่วนลดเพิ่มอีกก็เป็นได้ แต่ดิฉันสงสัยค่ะว่ากรณีหนี้บัตรเครดิตที่บอกว่าอายุความ 2 ปีนั้น นับจากวันไหนคะ วันสุดท้ายที่เราชำระหรือเริ่มจากวันแรกที่เราผิดนัดชำระคะ และหากดูหนี้นั้นเกิน 2 ปีแล้ว แต่ยังมีเอกสารส่งมาแจ้งฟ้องร้องอีก แบบนี้ศาลจะรับพิจารณามั้ยคะเนื่องจากหมดอายุความไปแล้ว…ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Blue…
      เรื่องของอายุความ 2 ปีนั้น ในขั้นแรกเค้าจะนับจากวันที่เราผิดนัดชำระนะครับ แต่ถ้าหลังจากนั้นมีการจ่ายเงินเข้าไปไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม เค้าก็จะเริ่มนับเวลาของอายุความใหม่ในวันล่าสุดที่เราได้จ่ายไปน่ะครับ ยังไงก็ต้องระวังนะครับ เพราะถึงแม้ว่าอายุความจะหมดลงไปแล้วแต่ถ้า มีใครประสงค์ไม่ดี จ่ายเงินเข้าไปในบัญชีของคุณไม่ว่าเท่าไหร่ก็ตาม อายุความของบัญชีนั้นๆก็จะเริ่มนับขึ้นใหม่นะครับ แล้วก็ยังสามารถฟ้องบัญชีคุณได้ใหม่อีกด้วยครับ
      ขอบคุณนะครับคุณ Blue… / Sheep

  27. blue said

    เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับคำตอบ

  28. narak said

    ช่วยตอบด้วยค่ะ
    เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อ7ปีก่อนดิฉันเคยค้างชำระค่าโทรศัพท์ของ huch แต่ก็ไม่ได้มีการทวงถามอะไรสงสัยอยู่เหมือนกันแต่ตอนนั้นยังเป็นนักเรียนเลยไม่มีเงินจ่าย มาถึงปัจจุบันเมื่อวันที่ 15/5/52 ก็มีบริษัททวงหนี้โทรมาเข้า office ที่ทำงานของดิฉันและบอกว่ารู้จักกับคนที่ทำงานของดิฉันถามชือแต่เค้าไม่บอกชื่อ บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทกฏหมายได้รับมอบอำนาจจากบริษัท huch มาทวงหนี้ให้เราชำระหนี้โดยยอด 9700 แต่ถ้าหากชำระภายใน3นับจากนี้จะให้ส่วนลดเหลือที่ต้องชำระแค่ 4500 บาทโดยจะให้ messenger มาเก็บเงินจากเราที่งาน ดิฉันจำสงสัยว่าทำไมเพิ่งจะมาทวง(แต่ก็ไม่ได้พูอออกไป) และจำไม่ได้ว่าค้างชำระอยู่เท่า จึงขอให้เจ้าหน้าที่คนที่โทรมา fax เอกสารการเป็นหนี้ของดิฉันรวมถึงจาก huch ที่มอบอำนาจให้ทางบริษัทมาทวง ปรากฏว่า ส่ง fax มาเป็นหนังสือลูกหนี้ขอส่วนลดในการชำระหนี้ แผ่นเดียวหัวกระดาษก็ระบุบริษัททวงหนี้และมีประทับตราบริษัทด้วย วันที่เป็นวันที่ดิฉันให้ fax มาคือประมาณว่าเขียนขึ้นเดียวนั้นและส่ง fax มาเลย ซึ่งดิฉันไม่ได้ขอส่วนลดและไม่ได้ต้องการเอกสารฉบับที่ส่งมาให้เพราะมันดูแปลกๆ เหมือนใครจะเขียนขึ้นก็ได้ ไม่มีเอกสารอื่นจาก huch เลย
    ดิฉันขอถามว่าควรทำอย่างไร เพราะเป็นหนี้ตั้ง 7 ปีแล้วทำไมเพิ่งจะมาทวงและเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาดิฉันทำเรื่องกู้ซื้อบ้านก็ผ่านในเครดิตบูโรก็ไม่ปรากฏเป็นหนี้และถ้านับอายุความมันก็หมดไปแล้วคือ 2 ปีนับจากวันที่ไม่ได้ชำระแล้วใช่ไหมค่ะ และดิฉันควรทำอย่างไรดี เพราะปรึกษาเพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องจ่าย บอกตรงๆ ว่าไม่ได้มีเงินเหลือเฟือ ถึงจำนวนเงินแค่ 4700 แต่ปัจจุบันเงินหายากถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากจ่าย และก็ส่งสัยว่าทำไมเพิ่งมาทวงก่อนหน้านีไม่เคยโทรเลย ซึ่งก็บอกว่าให้เจ้าหน้าที่ทวงหนี้มันดำเนินคดีตามกฏหมายให้ไปฟ้องเอา มันก็ขอคุยกับเจ้านายเราขู่เราต่างๆ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Narak…
      เอาล่ะๆ Huch อีกรายแล้วสิที่มีเรื่องแบบนี้ อิอิ บอกได้เลยครับว่าไม่ต้องกังวลไปกับเรื่องนี้หรอกครับ เพราะพูดตรงๆก็คือ จากเรื่องที่คุณเล่ามานั้น ถ้าคุณจะไม่จ่าย เค้าก็ทำอะไรคุณไม่ได้แล้วล่ะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่มันจะเป็นผลเสียกับคุณ ก็คือ คุณจะไม่สามารถกลับไปใช้บริการโทรศัพท์ของเครือข่าย Huch แบบจ่ายรายเดือนได้อีก เท่านั้นน่ะครับ แต่ถ้าคุณอยากจะกลับไปใช้คุณก็ต้องจ่ายเงินคืนเค้าให้หมดก่อนเท่านั้นเองครับ (แต่คุณยังสามารถใช้ Huch แบบเติมเงินได้นะครับ)เอาล่ะทีนี้ผมจะอธิบายเรื่องราวให้ฟังซักหน่อยนะครับ
      สาเหตุที่คุณยังสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อยู่ทั้งๆที่ คุณเป็นหนี้ Huch อยู่นั้นก็เพราะ เมื่อ 7 ปีที่แล้วบริษัท Huch ยังไม่ได้เข้าร่วมกับทาง เครดิตบูโร แต่ต่อมา Huch ก็ได้ตกลงที่จะเข้าร่วมกับเครดิตบูโร เพื่อที่จะสามารถติดตามหนี้และจัดการหนี้เสียได้ง่ายขึ้น แต่การเข้าร่วมเครดิตบูโรมันมีกฎอยู่ว่า บริษัท Huch ไม่สามารถที่จะนำหนี้เก่าที่เกิดขึ้นก่อนแล้วมารวมในฐานข้อมูลเครดิตบูโรได้ ดังนั้นหนี้ของคุณจึงรอดพ้น และไม่ถูกนำรายชื่อเข้าไปยังฐานเครดิตบูโร ทีนี้คุณ Narak คงพอเข้าใจระบบมากขึ้นแล้วนะครับ ส่วนเรื่องที่มีสำนักงานกฎหมายโทรทวงหนี้คุณนั้น ผมต้องบอกคุณแบบนี้นะว่า สำนักงานกฎหมายพวกนั้นเค้าได้ทำการซื้อหนี้เสียๆของบริษัทต่างๆมา เพื่อที่จะนำมาโทรทวงเงินคืนเพื่อแลกกับค่าคอมมิชชั่น ดังนั้นเค้าจะไม่สนหรอกครับว่า อายุความมันหมดรึยัง ชื่อไหนโทรได้เค้าก็โทร จดหมายส่งได้เค้าก็ส่ง แต่เรื่องฟ้องเค้าไม่ฟ้องคุณหรอกครับเพราะจำนวนเงินมันไม่คุ้ม ส่วนเรื่องที่เค้าบอกว่ารู้จักคนในที่ทำงานคุณนั้น ผมว่าเค้าคงอำน่ะครับ แต่ถึงจะรู้จักก็ไม่เห็นจะเป็นไร คุณก็ไม่ต้องไปสนใจ…
      เอาล่ะครับหวังว่าข้อมูลที่ผมตอบจะเป็นประโยขน์ต่อคุณ Narak นะครับ ขอบคุณนะครับ / Sheep

  29. narak said

    ขอขอบพระคุณมากเลยค่ะ
    ตอนนี้ดิฉันใช้บริการรายเดือนกับ ais อยู่ ใช้เบอร์มาเป็น7ปี แล้วไม่ได้มีปัญาหา และไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ huch อยู่แล้วค่ะ
    ฝากอีกนิดนึงค่ะ
    คือตอนนี้บริษัททวงนี้ก็ยังทวงอยู่ ทั้งส่ง fax และโทรขู่ว่าจะแจ้งฝ่ายบุคคลเราและยังยืนยันจะให้เจ้าหน้าที่มาเก็บเงินที่ทำงานของเรา มีพี่ที่ทำงานแนะนำว่าให้ไปแจ้งความไม่ทราบว่าสามารถทำได้หรือเปล่าค่ะ

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีอีกครั้งนะครับคุณ Narak…
      ถ้าจะให้ผมแนะนำนะครับ คุณไม่ควรที่จะไปแจ้งความเองนะ เพราะยังไงก็ตามคุณก็ยังเป็นหนี้ Huch เค้าอยู่ แต่สิ่งที่สามารถทำได้ก็คือ ถ้าจะมีการแจ้งความควรเป็นในนามของทางบริษัทของคุณมากกว่าครับ เพราะการกระทำที่สำนักงานกฎหมายได้กระทำ เป็นการจงใจทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนโดยไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล ดังนั้นเพียงทางบริษัทของคุณขู่เค้ากลับไปถึงประเด็นนี้ ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่งนะครับ
      ขอบคุณมากนะครับ / Sheep

  30. โซฮี said

    สวัสดีคะ คุณ sheep
    ดิฉันก็เป็นหนี้สินเชื่อบุคคล quick cash อยู่ 15,000 บาท แต่เค้ารวมดอกเบี้ยแล้วประมาณ 17,XXX ได้คะ แล้วก็บัตรกดเงินสด ktc 20,000 บาท แต่มีสนง.กฎหมาย ของ quick cash โทรมาที่ทำงานน่ะคะ น่าจะโทรมาเพื่อให้ชำระ น่ะคะ แต่ว่าตอนนี้ค่อนข้างขัดสนเรื่องเงิน น่ะคะ เลยไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี คุณ sheep พอจะมีวิธี เจรจาต่อรองเค้ามั๊ยคะ แบบว่า เราขอเวลาสักหน่อย หรือ ขอผ่อนผันไปก่อน เพราะตอนนี้ยังติดขัดเรื่องเงิน อยู่มาก ถ้าไม่อย่างนั้นก็ต้องสิ้นปี เลยคะ คุณ sheep รบกวนหน่อยนะคะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ โซฮี…
      คืออย่างนี้นะครับคุณโซฮี การที่เราจะทำการเจรจากับทางสำนักงานกฎหมายนั้น ยังไงซะเค้าก็ไม่รับฟังปัญหาของเราหรอกครับเพราะโดยส่วนใหญ่ บัญชีหนี้ของลูกค้าแต่ละคนจะมีเวลาอยู่กับสำนักงานกฎหมายที่นึงเพียงแค่ 3 เดือน และพอพ้นช่วง 3 เดือนนี้แล้วถ้าลูกค้าไม่มีการจ่าย บัญชีก็จะถูกโอนไปยังสำนักงานกฎหมายอื่นต่อไปเรื่อยๆ ดังนั้นถ้าเราจะบอกเค้าว่าตอนนี้เรายังไม่สะดวกของจ่ายตอนสิ้นปี ยังไงเค้าก็ไม่ฟังเราหรอกครับเพราะพอถึงตอนนั้นบัญชีของคุณก็ไม่ได้อยู่กับสำนักงานกฎหมายเค้าแล้ว และยิ่งถ้าคุณติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ของ quick cash หรือ ktc ในตอนนี้ ก็ยิ่งไม่มีผลอะไรอยู่ดีครับเพราะเค้าจะบอกคุณเพียงว่า ตอนนี้ข้อมูลของคุณอยู่ที่สำนักงานกฎหมาย ให้คุณทำการติดต่อไปคุยกับทางสำนักงานกฎหมายเอาเอง เรื่องทั้งหมดมันก็จะแย่แบบนี้แหละครับ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรทำที่สุดก็คือ ถ้ายังไม่มีจ่ายก็ให้บอกเค้าไปตรงๆเลยว่า ยังจ่ายไม่ได้ แล้วถ้ามีเมื่อไหร่จะจ่ายเข้าไปเอง แล้วก็ทำตัวเงียบๆเข้าไว้น่ะครับ พยายามเก็บเงินไว้เป็นก้อนแล้วก็ค่อยติดต่อไปเคลียร์ดีเดียวเลยจะดีที่สุดนะครับ
      ขอบคุณมากนะครับ / Sheep

  31. Boom said

    พี่ค่ะ จำ Boom ได้มั้ย กำลังจะปลดหนี้ค่ะ

    สำนักงานกฎหมายให้ส่วนลดเป็นที่น่าพอใจ ก็ประมาณว่า

    เหลือที่ค้างเค้าจิงๆ ไม่รวมดอกเบี้ย ว่าจะชำระวันสองวันนี้

    แล้ว แต่เมื่อชำระไปแล้วจะแน่ใจได้งัยค่ะว่าจบเรือ่งแน่นอน

    และสามารถกับไปทำธุรกรรมปกติได้จิงๆ ก็อยากรู้ค่ะว่าจะ

    ขาวสะอาดเมือ่ไหร่ อยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเองบ้าง

    สัญญาว่าจะไม่ทำตัวแบบนี้อีก เสียใจ เครดิตเสียเลย

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Boom…
      ดีใจด้วยนะครับ ผมส่งข้อความไปใน E-Mail ให้แล้วนะครับ…
      ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตั้งใจนะครับคุณ Boom… / Sheep

  32. lookkate said

    สวัสดีค่ะคุณ sheep ดิฉันขอถามคำถามดังนี้นะคะ
    1. ถ้าเรามีประวัติดีในการผ่อนชำระหนี้มาตลอดแต่จะขอทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้เนื่องจากมีความจำเป็นในเรื่องเงินจะทำได้หรือไม่ค่ะ? (ตอนนี้มียอดเป็นหนี้ Citiloan คงเหลือ 20,000 บาท,Firch Choice คงเหลือ 26,000 บาทค่ะ)
    2. ใบแจ้งหนี้แจ้งให้ส่งมาที่ทำงานตลอด แต่ถ้าเราไม่ส่ง ไม่ติดต่อ ขาดส่ง ถ้ามีเอกสารจากสำนักงานกฎหมายจะถูกส่งมาที่ทำงานที่เดียวรึเปล่าค่ะ? (เนื่องจากทะเบียนบ้านมีสถานะเป็นเจ้าบ้านกลัวเค้าจะส่งมาที่บ้านและไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้อ่ะค่ะ)
    3. ถ้าไม่ได้ให้เบอร์บ้านไป เจ้าหน้าที่เค้าจะโทรมาที่บ้านด้วยรึเปล่าอ่ะค่ะ? (กลัวค่ะเด๋วโดนบ่น)
    4. การปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้ประวัติในเครดิตบูโรเสียรึเปล่าค่ะ?
    5. ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีระหว่างนิ่งๆเฉยๆไม่ติดต่อ ขาดส่งไปเลย พอมีเงินก้อนแล้วค่อยติดต่อกลับไปแล้วปิดบัญชีหนี้สินหรือว่าทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ดีค่ะ
    ขอรบกวนถาม 5 ข้อนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีนะครับคุณ Lookkata…
      เอางี้ผมจะตอบเป็นข้อๆเลยนะครับ
      1. ถ้าเรามีประวัติดีในการผ่อนชำระหนี้มาตลอดแต่จะขอทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้เนื่องจากมีความจำเป็นในเรื่องเงินจะทำได้หรือไม่ค่ะ? (ตอนนี้มียอดเป็นหนี้ Citiloan คงเหลือ 20,000 บาท,Firch Choice คงเหลือ 26,000 บาทค่ะ)
      ตอบ ถ้าคุณคิดว่าคุณรับข้อเสนอต่างๆได้ ก็สมควรครับ แต่เช็คดอกเบี้ยดูก่อนนะครับ ว่าเค้าคิดเท่าไหร่ เพราะถ้าเราตกลงไปแล้ว เราจะต้องยอมรับกับมันนะครับ

      2. ใบแจ้งหนี้แจ้งให้ส่งมาที่ทำงานตลอด แต่ถ้าเราไม่ส่ง ไม่ติดต่อ ขาดส่ง ถ้ามีเอกสารจากสำนักงานกฎหมายจะถูกส่งมาที่ทำงานที่เดียวรึเปล่าค่ะ? (เนื่องจากทะเบียนบ้านมีสถานะเป็นเจ้าบ้านกลัวเค้าจะส่งมาที่บ้านและไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้อ่ะค่ะ)
      ตอบ แน่นอนครับ ถ้าคุณหายไป เค้าจะติดต่อคุณทุกๆทาง เท่าที่เค้าจะสืบหาได้น่ะนะครับ

      3. ถ้าไม่ได้ให้เบอร์บ้านไป เจ้าหน้าที่เค้าจะโทรมาที่บ้านด้วยรึเปล่าอ่ะค่ะ? (กลัวค่ะเด๋วโดนบ่น)
      ตอบ ถ้าเบอร์ของคุณสามารถสืบเค้าได้จากฐานประวัติต่างๆ เค้าก็ต้องโทรมาแน่ๆครับ

      4. การปรับโครงสร้างหนี้จะทำให้ประวัติในเครดิตบูโรเสียรึเปล่าค่ะ?
      ตอบ อันนี้ขึ้นอยู่กับว่า หนี้ก่อนที่จะทำการปรับโครงสร้าง ได้ถูกจัดเข้าไปอยู่ในเครดิตบูโรรึยังน่ะครับ ถ้ายังก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเค้าไม่ถือว่า หนี้ที่มีการปรับโครงสร้างเป็นหนี้เสีย

      5. ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีระหว่างนิ่งๆเฉยๆไม่ติดต่อ ขาดส่งไปเลย พอมีเงินก้อนแล้วค่อยติดต่อกลับไปแล้วปิดบัญชีหนี้สินหรือว่าทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ดีค่ะ
      ตอบ ครับตามสถานการครับ ถ้าคุณคิดว่าคุณสามารถที่จะหาเงินก้อนมาปิดหนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ครับ แต่ถ้าคุณคิดว่าค่อยๆผ่อนไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หมดแต่อาจต้องยอมรับกับดอกเบี้ยซักหน่อยก็ ก็ลองปรับโครงสร้างดูครับ เอาที่คุณคิดว่าคุณไหว อย่าทำอะไรที่เกินความสามารถของกำลังเราครับ เพราะแทนที่ปัญหาจะจบง่ายๆ มันอาจจะกลายเป็นเรื่องยากก็ได้ครับ
      ขอบคุณนะครับ / Sheep

  33. lookkate said

    สวัสดีค่ะ คุณ sheep…
    ขอบคุณมากนะคะ สำหรับคำตอบ ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่โทรมาแล้วอ่ะค่ะ ดิฉันก้อแจ้งไปว่าจะขอปรับโครงสร้างหนี้ แต่…
    citiloan บอกว่าให้เราจ่ายไปก่อนงวดนี้นิดหน่อย(500-600 บาท)แล้วเค้าจะทำเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ให้ทีหลัง
    first choice เจ้าหน้าที่บอกว่าเนื่องจากจะปรับโครงสร้างหนี้ได้ก้อต่อเมื่อ บัตรหาย..หรือประวัติของดิฉันต้องเข้าเครดิตบูโรหรือประวัติเสียก่อนจึงจะปรับโครงสร้างนี้ได้ (แต่เราก้อไม่อยากให้ประวัติเสียนะเพราะไม่เคยจ่ายล่าช้าเลย แค่อยากปรับโครงสร้างหนี้เพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือน)
    ดิฉันเลยงง…มากค่ะ ทำมัยเค้าถึงไม่ดำเนินการให้เราอ่ะ ทั้งที่เราก้อจะไม่หนีหนี้นะ แต่จะขอให้เค้าทำสัญญาใหม่เพื่อปรับโครงสร้างหนี้
    รบกวนตอบคำถามให้ดิฉันได้กระจ่างทีนะคะ เพราะไม่เข้าใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่เค้าอ่ะค่ะ แล้วอย่างนี้เค้าจะคิดค่าทวงถามด้วยรึป่าวค่ะ? และดิฉันควรจะทำยังงัยต่อไปดีคะ?(ไปไม่ถูก)

    ขอบคุณนะคะ

    • sheep said

      สวัสดีครับสำหรับกรณีที่คุณได้เล่ามาว่า เค้าให้จ่ายเข้ามาก่อน 500-600 บาทนั้น อาจเป็นไปได้ว่าบัญชีของคุณกำลังจะถูกเปลี่ยนแปลงสำนักงานในการติดตาม ดังนั้นเพื่อที่จะเก็บบัญชีของคุณไว้กับสำนักงานเค้าต่อนั้น เค้าจึงต้องการให้ทางคุณได้ทำการจ่ายเงินเข้าไปยังบัญชีหนี้ของคุณ เพื่อเป็นการรักษาสภาพหนี้ไว้ก่อน หรือพูดง่ายๆก็คือ เค้าไม่ต้องการให้งานของคุณหลุดไปยังบริษัทอื่นอ่ะครับ ส่วนเรื่องที่บอกว่า first choice ไม่รับการปรับโครงสร้างหนี้นั้นก็มีความเป็นไปได้ครับ ถ้าบัญชีหนี้ของคุณยังเป็นหนี้ใหม่อยู่ แต่สำหรับเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะมีรายระเอียดอยู่ซักหน่อย ถ้ายังไงผมได้ส่งข้อความไปทาง e-mail ของคุณแล้วนะครับ ยังไงก็ลองอ่านดูนะครับ
      ขอบคุณมากๆครับ / Sheep

  34. Jantana said

    เรียนคุณ Sheep อีกครั้งค่ะ

    เคยเขียนมาขอแนะนำครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี (ข้อความที่ 3) ตอนนี้มาขอคำแนะนำเพิ่มเติมค่ะ ตอนนี้ไม่ได้ชำระบัตร KTC มาตั้งแต่ก.พ.นี้ ยอดเงินอยู่ที่แสนกว่าๆ ได้รับการติดต่อมาเรื่อยๆ แต่ดิฉันก็ไม่สามารถไปดำเนินการอะไรได้ ก็เห็นยอดเงินที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนปัจจุบันเป็นแสนสามหมื่นกว่าบาท (แต่บัตรถูกระงับไปนานแล้วนะคะ) จดหมายล่าสุดที่ทางเคทีซีส่งมาเป็นการบอกว่า “ตามที่ท่านได้ตกลงผ่อนชำระ…” คือข้อความประมาณว่าดิฉันได้ไปตกลงผ่อนผันการชำระหนี้ และให้ดิฉันไปชำระประมาณสามพันกว่าบาท คือ ดิฉันไม่เคยไปทำการตกลงอะไรกับทางเคทีซีทั้งนั้นเลยนะคะ ไม่เคยได้โทรไป หรือพูดคุยอะไรกันเลย

    ความจริงปัญหาของดิฉันคงมีซ้ำๆ กับหลายคนข้างบน แต่ไม่มีเวลาอ่านจริงๆ ค่ะ เลยเขียนมาขอแนะนำคุณ Sheep อีกครั้ง ว่าควรจะทำยังไงดี คือว่ายังไงดิฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะไปชำระหนี้สินนี้ได้ ถ้าดิฉันยังคงเพิกเฉยต่อไป ทางเคทีซีจะดำเนินการต่อไปยังไงคะ ดิฉันต้องรอให้ทางเขาฟ้องหรือควรทำอย่างไรดีคะ

    ขอคำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากมากค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ…Jantana
      จากเรื่องที่คุณเล่ามานั้น ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ เพราะคุณบอกว่ามีจดหมายมาแจ้งถึงเรื่องที่คุณ ตกลงในการทำเรื่องผ่อนผันหนี้สิน ทั้งๆที่คุณยังไม่ได้ทำเลย ถ้าเป็นแบบนี้ผมไม่ค่อยแน่ในนะครับว่าจดหมายที่ถูงส่งมานั้น มันเป็นจดหมายของทาง KTC จริงรึเปล่า ถ้ายังไงลองตรวจสอบเอกสารให้ดีก่อนที่จะทำการใดๆลงไปดีกว่านะครับ และสำหรับเรื่องที่เค้าจะให้จ่ายเงินเข้าไป 3 พันบาทก่อนนั้น ผมว่ามันไม่ค่อยถูกต้องเพราะถึงแม้นว่าคุณจะจ่ายเข้าไป ก็ไม่แน่ใจว่าเค้าจะไปลดเงินต้นให้คุณรึเปล่า หรือเป็นเพียงแค่ทริกในการติดตามของพวกสำนักงานกฏหมายเท่านั้นก็เป็นได้ ดังนั้นขอย้ำนะครับดูตัวจดหมายให้ดีว่าเป็นของ KTC เค้าจริงๆ และถ้าจดหมายมาจาก KTC จริงๆ แต่ในตอนนี้คุณยังไม่พร้อมที่จะจ่ายหนี้คืนเค้า เราก็ต้องปล่อยไปครับ ถ้าเค้าจะฟ้องก็ให้เค้าดำเนินการไป ถ้ามีหมายเรียกมาคุณก็ไปตามนัดแล้วก็บอกเค้าว่ายังไม่พร้อมก็เท่านั้นครับ เพราะถึงแม้ว่าเค้าจะฟ้อง แต่เราไม่มีจ่าย เรื่องมันก็ต้องดำเนินไปเป็นขั้นตอนครับ จดถึงจุดสุดท้ายถ้าถึงขั้นต้องอายัทเงินเดือน เค้าก็สามารถอายัทได้แค่ 30%เท่านั้น แต่ถ้าเงินเดือนคุณไม่ถึงเค้าก็ทำอะไรคุณไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นทำใจให้สบายนะครับ ถ้ามีเรื่องอะไรก็เขียนเข้ามาถามได้เลยครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  35. เนย said

    คืออยากจะถามว่า อยามจะทำบัตรเงินสดของยูเมะพลัส แต่หนูยังผ่อนของกับเฟริส์ช้อยส์อยู่และค้างค่างวด1เดือน แต่หนูก็จะส่งเค้าอยู่และค่ะ ถ้าหนูไปสมัครยูเมะพลัสจะผ่านหรือป่าวค่ะ จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆๆๆค่ะ หนูฐานเงินเดือน 6500 รวมค่าอื่นๆด้วยเงินสุทธิประมาณ 7500 จะผ่านหรือป่าวค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ เนย…
      จากที่ถามมา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับถ้าจะไปทำบัตรของยูเมะพลัส เพราะตัวบัตรเฟริสช้อยส์ พื่งค้างแค่เดือนเดียวเอง แต่ยังไงก็ต้องรีบทำเรื่องนะครับ จะได้อนุมัติได้เร็วๆ แต่ถ้าเรื่องผ่านแล้วต้องระวังการใช้คืนให้ดีๆนะครับ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาทีหลังนะครับ
      ขอบคุณมากๆครับ / Sheep

  36. am said

    รบกวนขอคำปรึกษานะค่ะ พอดีเป็นหนีบัตรเฟริสซ้อยส์อยู่ประมาณ 16000 บาท เรื่องอยู่ที่สำนักงานกฏหมาย เราก็ทยอยจ่ายให้เขาแต่ว่ายังไม่พอกับยอดขั้นต่ำที่เขากำหนดอ่ะค่ะ คือขั้นต่ำ 3000 บาท เราจ่าย 1500 อยากทราบว่าเราจ่ายแบบนี้ทุกเดือนจะได้ไหม ประมาณว่าถ้ามีก่อจ่ายแต่อาจจ่ายน้อยอ่ะค่ะ เช่น มี 1000 ก่อจ่าย 1000 เพราะเปลี่ยนสำนักงานกฏหมายมาแล้ว 2 ที่ อ่ะค่ะเขาบอกว่าถ้าไม่จ่ายวันนี้ก่อจะมีพนักงานมาติดตามที่ทำงาน เหมือนเขาต้องการประจานเราอ่ะค่ะ ชึ่งวันนั้นเขาบอกให้เราจ่าย 2800 แต่เราจ่ายไป 1600 เขาก่อบอกว่าไม่มีผลจะมีพนักงานมาตามที่ทำงาน ต่อมาเราพยายามจะปิดบัญชีแต่ทำไม่ได้ค่ะ แต่เขาบอกเราว่าสารถขอปิดได้แค่ครั้งเดียวถ้าพลาดก็พลาดเลยค่ะ ตอนนี้กลัววาสเขาจะมาติดตามอ่ะค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Am…
      จริงๆแล้วผมคิดว่าที่คุณจ่ายแต่ไม่ถึงขึ้นต่ำน่ะ มันค่อนข้างจะเสียเปรียบไปซักหน่อยนะครับ เพราะตามหลักแล้ว ถ้าเราจ่ายไม่ได้ตามขึ้นต่ำที่เค้าตั้งไว้ บัญชีเราก็จะยังคงตกลงไปยังฐานฟ้องอยู่ดี แต่มันก็มีข้อดีนะครับ คืออาจจะตกไปยังฐานฟ้องช้าอีกซักหน่อย ดังนั้นถ้าจ่ายไหวก็จ่ายไปเถอะครับ ยังไงก็ยังดีกว่าไม่จ่ายเลย และเรื่องที่เค้าบอกว่าสามารถขอปิดได้แค่ครั้งเดียวนั้นอย่าไปใส่ใจมากครับ ถ้าเรายังไม่แน่ใจว่าเราจะปิดได้มั้ย ก็ให้เราลองถามเค้าดูก่อนว่า ลดได้เท่าไหร่แต่ยังไม่ต้องไปตงลงอะไรนะครับ ถ้าเราไหวค่อยตกลงกับเค้าแบบนั้นจะดีกว่านะ
      ขอบคุณนะครับ / Sheep

  37. boom said

    boom ka

    หายหน้าไปเลยอ๊ะ ไม่ได้เข้ามานานมากมาย เรื่องเงินกู้ กยศ ที่ทางพี่ให้คำแนะนำ

    จบลงไปด้วยดีค่ะ ไม่มีอะไรเลวร้ายสักนิดเด้ว ( ชอบคิดเอง เออเอง )

    boom โอนเงินสนับสนุน creditsheep ให้พี่อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้กันต่อไป

    เป็นพวกคนสู้หนี้ ( สารภาพ เพิ่งจะโอนวันนี้แหละ อิอิอิ พอโล่งใจก็ลืมอ๊ะ )

    สำหรับพี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน

    ปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ไขค่ะ ปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไขไม่เกิดกับเราแน่นอนค่ะ

    สู้กันต่อไป มีหนี้ก็ใช้ไป อย่าไปสร้างเพิ่มแล้วมันก็จะถึงวันของเรา หัวเราะได้ดังขึ้นอย่างที่ boom

    เป็นวันนี้ สู้สู้กันนะค่ะ

  38. mo said

    พอดีเพื่อนเป็นหนี้เฟริสซ้อยส์ 12000 บาท คิดว่าจะรอเก็บแล้วขอส่วนลดเพื่อปิดบัตรครับ ก่อเลยขาดส่งแต่ก่อส่งแต่ไม่มากเพราะช่วงนี้เขาลำบาก แต่เมื่อวานมีจดหมายมาบอกว่เขาาให้ไปชำระภายใน 20 วัน มิฉะนั้นจะฟ้อง อยากถามว่า
    1. 12000 เขาจะลงทุนฟ้องไหมครับ
    2. ถ้าเราจ่ายเท่าที่เราสามารถจ่ายได้ เช่น 1000 นึง เขาก่อยังดำเนินการฟ้องอยู่ใช่ไหมครับ
    3.เพื่อนผมจะไม่ยอมรับโทรศัพท์เลยครับ เขาบอกว่ารอมีตังค์สักก่อนค่อยโทรกลับไป ช่วงนี้ก็จ่ายเท่าที่สามารถ อยากถามว่าจะมีการจัดส่งคนมาทวงหนี้นอกสถานที่หรือป่าวครับ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Mo…
      ตามหลักแล้วถ้าไม่นานมากก็ยังไม่น่าจะถูกฟ้องนะคับ และอีกอย่าผมว่ายอดหนี้นั้นน้อยเกินไป ดังนั้นลองตรวจสอบเอกสารต่างๆที่เค้าส่งมาให้อีกทีว่ามันถูกส่งมาจากที่ไหน จากเฟริสช้อยส์ หรือมาจากสำนักงานกฏหมาย เพราะต้องระวังให้ดีในกรณีแบบนี้พวกสำนักงานกฏหมายเค้าชอบขู่ไปเรื่อยแหละครับ แต่ในส่วนที่ว่าจะมีการส่งคนมาทวงหนี้นอกสถานที่รึเปล่านั้น อาจจะมีนะครับ แต่ไม่ต้องไปสนใจมากหรอกครับ ถ้าเค้ามาก็รับเอกสารไว้ก็เท่านั้น เพราะพวกนี้เค้าไม่มีหน้าที่ที่จะทำอะไรมากกว่านั้นนะครับ ยังไงก็สู้ๆนะครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  39. เจ said

    สวัสดี ค่ะ คุณ sheep ขอรบกวนถามเรื่องหนี้บัตร หน่อยนะค่ะ
    ดิฉันอยู่ 3ใบ
    ใบที่1. อีออน จำนวนเงินที่ค้างจริง 20000 บาท (ใช้กดเงินสดได้อย่างเดียว)

    ใบที่2. เคทีซี ———————- 20000บาท(ใช้กดเงินสดได้อย่างเดียว)

    ใบที่3. อีซีบาย บัตรกดเงินสด ยูเมะ พลัส จำนวนเงิน15000บาท ทั้ง3ใบนี้หยุดจ่ายเมื่อธันวาคม
    ปี50

    ทุกบัตรตอนนี้ยอดเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย

    1.ดิฉันจะสอบถามว่าอายุความของแต่ละใบ กี่ปี่ค่ะ บัตรทั้งสามใบนี้อายุความกี่ปีค่ะ เจ หยุดจ่าย เมื่อเดือน ธันวาคม ปี50

    2.ยอดเงินเท่าไหรเค้าจึงจะฟ้องค่ะ
    พยายามจ่ายใบอืน ไปได้ 2ใบแล้วเหลือ 3ใบนี้แหละค่ะตอนนี้ไม่มีงานทำด้วย ไม่รู้จะทำยังไงดี
    พวกสำนักงานทนายก็โทรไปที่บ้าน โทรหาอบต. ผู้ใหญ่บ้าน ให้เอาเบอร์โทรมาให้แม่ หลอกว่ามาจาก กองบังคับคดี ถ้าไม่จ่าย จะมายึดทะเบียนบ้าน คนบ้านนอกพอได้ยินอย่างนั้นแม่ก็กลัว เจก็พยายาม อธิบายให้แม่แกฟัง
    เจ็บใจ มีใบหนึงถึงมีก็ไม่จ่ายเพราะทวงแบบประจารเราจริงๆ

    รบกวนขอคำแนะนำด่วยนะค่ะ ที่สำคัญอยากทราบว่าบัตรแต่ละใบอายุความกี่ปีนะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ เจ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ เจ…
      น่าเห็นใจนะครับสำหรับใครก็ตามที่เจอกับพวกที่เห็นแก่เงินจนไม่สนใจวิธีการติดตามหนี้ที่ถูกต้อง ยังไงก็จะเป็นกำลังใจให่นะครับคุณเจ
      เรื่องของอายุความของบัตรต่างๆนั้น เป็นแบบนี้ครับ
      1. สินเชื่อเงินสด 10 ปี เป็นสัญญากู้ยืม
      2. บัตรกดเงินสด 2 ปี เป็นลักษณะเดียวกับบัตรเครดิต
      3. บัตรผ่อนสินค้า 2 ปี เป็นสัญญาเช่าซื้อครับ
      ดังนั้น ทั้ง 3 บัตร ของคุณเจ จะจัดอยู่ในกลุ่ม อายุความ 2 ปี ทั้ง 3 บัตรนะครับ
      ส่วนการนับอายุความนั้น เค้าจะนับจากวันที่ บัตรเกืดยอดค้างชำระ หรือ นับจากครั้งสุดท้ายที่มีการจ่ายหนี้คืนเค้าน่ะครับ *เช่น บัครยูเมะ ของคุณเจ ได้หยุดจ่ายเมื่อ ธันวาคม 2550 เค้าก็จะเริ่มนับอายุความใหม่ เป็นวันที่ได้มีการจ่ายไปครั้งสุดท้ายน่ะครับ…
      ขอบคุณมากนะครับ / Sheep

  40. ฟ้า said

    คือมีเรื่องจะรบกวนถามหน่อยอ่ะ คือว่า ค้างชำระบัตรเฟริส์ชอยส์อยู่ 1เดือนอ่ะค่ะ หนูผ่อนเป็นตู้เย็นอยู่อ่ะค่ะ ก็คือ พอมีเอกสารมาก็คือยอดชำระของเก่า1เดือนกํบงวดปัจุบันที่จะต้องจ่าย หนูก็จ่ายแค่1เดือนกับค่าติดตามทวงถามอ่ะ แล้วหนูก็ค้างไว้อีก 1 เดือนอ่ะค่ะ หนูก็อยากจ่ายให้หมดนะค่ะแต่ไม่มีเงินจริงๆค่ะ แต่หนูก็จะจ่ายเค้าจนกว่าจะหมดนั้นแหล่ะค่ะ ก็เท่ากับว่าหนูก็ค้างชำระเค้าไป 1เดือนตลอดอ่ะค่ะ ถ้ากรณีแบบนี้หนูจ่ายเค้าไป1เดือนแล้วค้างไว้1เดือน ถ้าหนูจ่ายตรงนี้หมดแล้ว หนูจะผ่อนสินค้าได้อีกไหม๊ค่ะหรือว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว รบกวนตอบหนูด้วยนะค่ะ หนูก็อยากจ่ายให้หมดนั้นแหล่ะค่ะ แต่เงินไม่พอจริงๆค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ ฟ้า…
      จริงๆแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับถ้าคุณฟ้าจะจ่ายแบบนั้น อย่างมากเค้าก็จะลงประวัติเอาไว้ว่าลูกค้าได้มีการจ่ายล่าช้า แต่ก็ยังไม่ถึงกับขาดส่ง หรือจงใจที่จะไม่จ่าย ดังนั้นเมื่อคุณฟ้าจ่ายหมด ก็ยังสามารถที่จะทำเรื่องผ่อนสินค้าชิ้นต่อๆไปได้ครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  41. nuchey said

    รบกวนสอบถามค่ะ

    ตอนนี้ ประนอมหนี้กับ ซิตี้แบงค์เดือนละ 3200 บาท (รู้สึกว่ายังแพงอยู่ แม้เค้าบอกว่า คิดดอก 5% ยอดเต็มประมาณ 100000 บาท)ยังจ่ายอยู่ สามารถทำให้ยอดต่ำกว่านี้ได้หรือไม่

    HSBC 58000 ค้างชำระ 2 เดือน
    KTC เครดิน 60000 และ Ktc บัตรกดเงินสด 50000 สองใบนี้ยังจ่ายอยู่แต่ล่าช้าบ้างตามกำลัง

    ตอนนี้คิดเรื่องประนอมหนี้เนื่องจากมีภาระเพิ่มมากขึ้นไม่สามารถจ่ายได้ และไม่มีเงินก้อนมาปิด แต่เรื่องการทวงถามของ Ktc น้อยมากไม่ค่อยรบกวน ส่วนของ HSBC นั้นเป็นระบบ ใช้โทรสับมาเพียงกรี๊งเดียวแล้ววางสาย ติดๆ คราวละ 5-6 ครั้ง ทำให้รำคาญใจ เท่านั้น

    หากจะประนอมหนี้ให้ได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด หรือให้เค้าให้ส่วนลดควรทำยังไงดีคะ หรือว่ามีทางใดที่จะรวมหนี้เป็นที่เดียวได้หรือไม่

    รบกวนขอความคิดเห็นด้วยนะคะทุกๆท่าน ตอนนี้ร้อนใจมากจริง ๆ ว่าควรทำยังไงดีให้

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ nuchey…
      เรื่องการรวมหนี้เป็นก้อนเดียวนั้น คงจะต้องหาที่กู้ใหม่มาปิดทั้ง 3 บัตรเท่านั้นถึงจะพอไหว แต่เนื้องจากยอดทั้ง 3 บัตรรวมกันมันค่อนข้างสูง และยังไม่รู้ว่าสถานภาพเครดิตในตอนนี้ของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นอาจไม่ง่ายนักในเรื่องหาเงินก้อนมาปิดทั้ง 3 บัตร และส่วน บัตรของธนาคารซิตี้แบงค์นั้นคุณได้ทำเรื่องการประนอมหนี้ไปแล้ว ในตอนนี้จึงไม่สามารถทำอะไรได้อีก นอกจากจ่ายไปตามสัญญาที่ได้ทำไว้ ส่วนบัตรที่เหลืออีก 2 ใบนั้นถ้าเรายังจ่ายอยู่เรื่อยๆถึงแม้ว่าจะมีขาดจ่ายบ้าง ถ้าเป็นแบบนี้เค้าก็ยังทำอะไรกับเราไม่ได้หรอกครับ ที่เค้าทำได้ก็คงเป็นเพียงทำให้คุณรำคาญบ้างก็เท่านั้น…
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  42. nuchey said

    ขออีกคำถามนะคะ เพื่อนฝากถามมา

    ปัจุจุบันเค้าใช้ เรดดี้เครดิตอยุ่ วงเงิน 52000 บาท ใช้เต็มวงเงิน จ่ายเงินอยู่ ยอดขั้นต่ำ แต่ก็มีล่าช้าบ้าง 2 งวดครั้งบ้าง อยากจะปิดบัตรแต่ว่าจะได้รับเงินก้อนประมาณรอบเดือนกันยาที่จะถึงนี้ อยากได้ส่วนลดเพื่อที่จะได้ยอดจ่ายที่ลดลง ไม่ทราบว่าสามารถทำได้หรือไม่และต้องทำยังไง

    หากว่าปิดได้แล้วสามารถเคลียร์ประวัติเครดิตได้หรือไม่ที่จ่ายล่าช้าอยู่เป็นประจำ เนื่องจากว่าประมาณปลายปีเค้าจะซื้อคอนโด กลัวว่าประวัติทำให้มีปัญหาไม่สามารถกู้แบงค์ได้

    ขอบคุณค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ nuchey…
      ยินดีช่วยครับ คือเรื่องมันจะเป็นแบบนี้นะครับ ต้องดูว่าบัญชีเรดดี้เครดิตของคุณ สถานะบัญชีในตอนนี้อยู่ในสถานะไหน เพราะถ้าเป็นบัญชีที่ยังไม่ถูกตีว่าเป็นหนี้ศูนย์ จะได้ส่วนลดน้อยมากๆ และอีกอย่างนั้นผมยังไม่ทราบว่าบัญชีของ เพื่อนคุณนั้น ยังใช้ได้เป็นปกติหรือเปล่าหรือว่าโดนระงับการใช้บัตรไปแล้ว เพราะเรื่องพวกนี้สำคัญต่อการจัดการเรื่องส่วนลดมากๆเลยนะครับ แต่เอาอย่างนี้ละกันผมจะตอบไปคร่าวๆก่อน คือถ้าบัญชีเรดดี้เครดิตใบนี้ ยังใช้งานได้อยู่เป็นปกติแล้วละก็ ผมก็ยังไม่แนะนำให้ไปปิดมันในตอนนี้หรอกนะครับ ค่อยๆจ่ายไปเรื่อยๆก่อนน่าจะดีกว่า เพราะเงิน 5 หมื่นก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเหมือนกันนะอาจจะเอาไปทำในเรื่องที่จำเป็นก่อน ส่วนเรื่องที่ถามว่าปลายปีจะซื้อคอนโด จะมีปัญหาอะไรหรือเปล่านั้น ปัญหาใหญ่มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่อง ที่ว่าบัตรมียอดค้างรึเปล่า แต่มันขึ้นอยู่กับว่า ตอนนี้สถานะเครดิตของคนที่จะกู้เงินซื้อคอนโดเป็นอย่างไรน่ะครับ แนะนำนะครับ อยากให้ไปลองตรวจสอบเครดิตของตัวเองก่อนจะดีกว่าครับว่า ในฐานข้อมูลเครดิตในตอนนี้ สถานะเครดิตของเราเป็นยังไงบ้าง มันจะง่ายต่อการตัดสินใจที่จะทำอะไรก่อนหรือหลังน่ะครับ และถ้ามีข้อมูลเพื่มเติม หรือสงสัยอะไรก็เข้ามาสอบถามกันได้นะครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  43. salaryman said

    สวัสดีครับ ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องบัตรเครดิต ตอนนี้มียอดค้างชำระของบัตรต่าง ๆ ดังนี้ บัตรกดเงิน ktc 30000, บัตรเครดิต ktc 50000, บัตรเครดิต HSBC 11000, เงินกู hsbc 9000, บัตรกดเงิน uob 20000, บัตรเครดิต uob 15000 + บัตรอื่น ๆ ประมาณ 5,0000
    ตอนนี้ผมกำลังทำเรื่องกู้เงินเพื่อจะนำมาปิดบัตรให้เป็นก้อนเดียว และต้องการส่วนลดเนื่องจากเงินทั้งหมดก็มากโขอยู่ แต่หลังจากที่ได้อ่านเรื่องของการปิดบัตรแบบมีส่วนลดของคุณ sheep ที่ได้บอกไว้ประมาณว่า “ถ้าบัญชียังไม่ถูกระบุว่าเข้าข่ายจะเป็นหนี้สูญ ส่วนลดจะได้ไม่มาก” และก่อนหน้านี้ผมก็เคยโทรไปหาธนาคารดังกล่าวที่ผมมีหนี้ก้อนใหญ่ ๆ ซึ่งคาดว่าอยากจะได้ส่วนลดมาก ๆ เช่น KTC,HSBC,UOB เค้าก็จัดส่วนลดให้ได้ไม่กี่พันหรือบ้างก็บอกว่าตอนนี้ยังไม่มีนโยบายเรื่องการทำส่วนลด ถ้าเป็นแบบนี้ผมควรจะทำยังไงดีครับ ควรจะหยุดจ่ายหนี้ไปซักพักก่อนเพื่อให้บัญชีเปลี่ยนสถานะหรือไม่ครับ (ลืมบอกไปว่าผมจ่ายขั้นต่ำตลอด ช้าบ้าง หรือนาน ๆ ครั้งจะไม่จ่ายบ้าง) ขอความแนะนำหน่อยนะครับ เพราะว่าจะอยากจะเอาเงินส่วนต่างไปใช้ในอีกหลาย ๆ เรื่อง
    ขอบคุณมากครับ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ salaryman…
      ต้องขอโทษจริงๆนะครับที่อาจจะเข้ามาตอบช้าไปซักหน่อย เอาละแต่ยังไงก็มาแล้วล่ะครับ เรามาเริ่มกันเลยนะ
      จากหนี้ทั้งหมดที่คุณ salaryman ได้เล่ามานั้น ถ้ารวมๆแล้วก็คงประมาณเฉียดๆ 2 แสนได้เลยนะครับ ก็ถือว่าเยอะเอาการอยู่ เอาล่ะแต่ยังไงมันก็เป็นไปแล้วอย่าไปคิดถึงอดีตเลยครับ จำไว้เพียงถ้าแก้ได้แล้วก็อย่าพยามไปสร้างขึ้นอีกก็แล้วกัน…เรื่องของการขอส่วนลดในการทำเรื่องขอปิดจบหนี้นั้น ก็อย่างที่ผมได้เคยเขียนไว้ คือถ้ายังเป็นบัญชีใหม่หรือ เป็นบัญชีที่ยังมีการจ่ายอยู่บ้างนั้น ตามหลักแล้วจะได้ส่วนลดที่ไม่มากนักนะครับ เพราะส่วนมากเค้าจะถือว่าบัญชีประเภทนี้ยังเป็นบัญชีที่ยังสามารถติดตามลูกหนี้ได้ ดังนั้นเค้าจึงถือว่ายังมีโอกาศที่จะเก็บดอกเบี้ยคืนได้เรื่อยๆ จึงไม่ค่อยให้ส่วนลดมากซักเท่าไหร่ประมาณว่าเก็บไว้กินเรื่อยๆจะคุ้มกว่า แต่ปัญหามันจะมาตกอยู่กับเราน่ะสิครับ เพราะเราจะต้องจ่ายไปเรื่อยๆ ดูเหมือนแทบจะไม่มีกำหนดเวลา ว่าเมื่อไหร่จะจบสิ้นกันเสียที ดังนั้นวิธีแก้มันก็พอมีครับ แต่อาจจะยุ่งยากซักนิดเพราะบัตรมันหลายธนาคาร ต้องเจรจาหลายที่ เอาเป็นว่าเอาอย่างนี้ละกันนะครับ โทรมาคุยกับผมเลย แล้วผมจะอธิบายให้ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะพิมพ์คงไม่ไหวแน่ๆ เรื่องมันค่อนข้างยาว ถ้าจะติดต่อผม ส่งเมลมาขอ เบอร์โทรผมที่ E-mail creditsheep@hotmail.com ได้เลยนะครับ ยังไงก็ใจเย็นๆนะครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  44. jib said

    อยากถามว่าเป็นหนี้ umay ประมาณ สามหมื่น และ first choice สามหมื่น แต่ตอนนี้กะลังจะไปต่างประเทศไปทำงาน แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีเงินปิดบัญชีหนี้ และ จะหนีหายไปเลยได้ไหมแล้วค่อยกลับมาเคลียร์ทีหลัง จะมีหนี้เพิ่มมากไหมหรือว่าเขาจะประณีประณอมหนี้ให้เราไหมต้องทำไงดีคะกลุ้มใจมากและไม่อยากให้ที่บ้านรู้เรื่องอ่ะค่ะจะให้เค้าส่งบิลไปบ้านเพื่อนได้ไหม ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Jib…
      เอาล่ะครับ จากที่ฟังดูนั้นเรื่องหนี้ที่มีอยู่ คงไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่นัก แต่ปัญหาจริงๆคือคุณ Jib คงไม่อยากให้ที่บ้านรู้ในเรื่องหนี้ที่เกิดขึ้น แต่ผมคงต้องพูดตามตรงเลยนะครับว่า ไม่ว่ายังไงก็ตามที่บ้านคุณต้องรู้แน่ๆ ดังนั้นถ้าคุณสามารถพูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆให้ที่บ้านเข้าใจได้จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยนะครับ เพราะอย่างที่ผมบอกว่าเรื่องหนี้ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณไม่อยู่เค้าก็ยังทำอะไรคุณไม่ได้ อย่างมากเค้าก็จะติดต่อไปหาที่บ้านคุณ เพื่อให้ที่บ้านคุณรับผิดชอบแทน แต่ตามหลักแล้วถ้าที่บ้านคุณไม่สนใจชะอย่าง เรื่องก็จบทำอะไรต่อไม่ได้ แล้วถ้าคุณกลับมาหาเงินได้พร้อมแล้ว ค่อยติดต่อกลับไปหาเค้าเพื่อทำเรื่องในการขอปิดจบหนี้ทั้งหมดพร้อมด้วยการขอส่วนลดต่างๆ จะเป็นแนวทางที่ดีกว่านะครับ ดังนั้นสิ่งแรกที่จำเป็นต้องทำก็คือ พยายามพูดคุยกับที่บ้านให้เข้าใจนะครับ ว่าปัญหาทั้งหมดสามารถแก้ไขได้ ถึงเราไม่อยู่คนอื่นก็ไม่จำเป็นต้องมาชดใช้หนี้แทนเรา ถ้าเรากลับมาแล้วจะติดต่อกลับไปเครียหนี้ทั้งหมดเอง เอาล่ะยังไงผมจะคอยเป็นกำลังใจให้นะครับ ถ้ามีอะไรก็ถามมาได้เลยครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  45. ฟ้า said

    สวัสดีค่ะคุณ sheep ฟ้ามีเรื่องจะรบกวนค่ะ ค่อนข้างที่จะเครียดมาก คือฟ้าค้างจ่ายfirst choice
    1เดือน แต่ฟ้าก็ยังจะส่งต่ออยู่นะค่ะ แต่ก็จะค้างไว้ 1เดือนค่ะ ไม่มีเงินไปจ่ายทบค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวแฟน จะให้ไปค้ำประกันให้อ่ะค่ะ พี่สาวจะเอารถเข้าไฟแนนซ์ค่ะ อย่างนี้ฟ้าจะค้ำให้ได้หรือป่าวค่ะ แล้วฟ้าก็กลัวพี่สาวแฟนจะรู้ว่าฟ้าค้างจ่าย first choiceค่ะ กลัวมากๆเลย แล้วมีญาติอีกคนนึงก็จะให้ค้ำประกันให้เหมือนกัน คือคนนี้จะออกรถกะบะ ถ้าฟ้าค้ำให้พี่สาวแฟนได้ แล้วมาค้ำให้ญาติอีก จะได้ไหมค่ะ ในเวลาไล่เลี่ยกันเลยค่ะ เรื่องที่ถามอาจไม่เกี่ยวข้องนะค่ะ แต่ฟ้าเครียดค่ะ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครค่ะ รบกวนช่วยตอบทีนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณฟ้า…
      เรื่องของบัตร first choice ถ้าคุณฟ้าพึ่งจะมียอดค้างเป็นครั้งแรก และแค่เพียงเดือนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ส่วนเรื่องการค้ำประกันนั้นคิดว่าคงผ่านแน่นอน ถ้าคุณฟ้าไม่ได้มีปัญหาอื่นนอกจากที่เล่ามานะครับ และในเรื่องของการค้ำประกันนั้น มันเป็นสิทธิของเราครับว่าจะยินยอมพร้อมใจไปค้ำให้กับใครบ้าง จะเป็นภายในวันเดียวกันหรือในเวลาไล่เลี่ยกันก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ ส่วนใหญ่เค้าไม่ถามหรอกครับว่าคุณไปค้ำให้ใครมากี่รายแล้ว ถึงถามคุณจะไม่บอกก็ยังได้ แต่เรื่องที่เค้าต้องตรวจแน่ๆก็คือ เรื่องของเครดิต , ฐานเงินเดือน อะไรในลักษณะนี้มากกว่าครับ ดังนั้นสบายใจได้ครับ *แต่จะค้ำประกันให้ใครก็ต้องระวังให้ดีนะครับ เพราะถ้าเกิดปัญหา ระลึกไว้ได้เลยว่าเราจะเป็นคนที่ 2 ที่เจ้าหนี้เค้าจะนึกถึง
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  46. sandy said

    สวัสดีค่ะ คุณ sheep
    ดิฉันมีเรื่องรบกวนจะสอบถามว่า ดิฉันเคยได้รับแจกซิมฟรีมา แต่ไม่เคยเปิดใช้ ( เจ้าหน้าที่ที่แจกไม่ได้บอกเลยว่า ไม่เปิดก็ต้องเสียเงิน แล้วก็เอาบัตรประชาชนของเราไปถ่ายโดยที่ดิฉันยังไม่อนุญาติด้วย แล้วดิฉันก็เขียนกำกับไว้ว่า ใช้สำหรับรับซิมฟรีเท่านั้น ) ปรากฏว่าหลังจากนั้นมีบิลเรีบกเก็บค่าบริการมา ดิฉันจึงร้องเรียนไปยังหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง หนังสือพิมพ์ก็ดำเนินการประสานงานไปยังเจ้าของเครือข่ายนั้น จากนั้นก็มีโทรศัพท์จากเครือข่ายนั้นโทรกลับมาสอบถาม ดิฉันก็เล่ารายละเอียดที่เกิดขึ้นให้ฟัง เค้าก็บอกว่าตรวจสอบแล้วจะโทรกลับมา ก็ยังไม่โทรกลับมา
    แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ตอนนี้ดิฉันต้องการที่จะทำบัตรเครดิต เลยอยากรู้ว่าดิฉันจะติด แบล็กลิสท์ หรือเปล่าคะ

    • sheep said

      สวัสดีครับ คุณ Sandy…
      ครับโดยปกติแล้วพวกแจกซิมนั้นถ้าเค้าได้เอกสารเราครบเค้าก็จะเปิดให้เลยนะครับ เพราะถ้าไม่เปิดใช้งานเค้าก็ไม่ได้ค่าคอมมิสชั่น และถึงแม้ว่าในตัวเอกสารคุณ Sandy จะเขียนกำกับไว้แล้วว่า (ใช้สำหรับรับซิมฟรีเท่านั้น)ครับคือซิมมันฟรีน่ะครับ แต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากซิมมันไม่ได้ฟรีด้วย และเรื่องของเอกสารที่คุณแจ้งว่า (เอาบัตรประชาชนของเราไปถ่ายโดยที่ดิฉันยังไม่อนุญาติด้วย) แต่หลังจากเค้าถ่ายเสร็จ คุณก็ได้เขียนลายมือชื่อตัวเองลงไปแล้วว่า (ใช้สำหรับรับซิมฟรีเท่านั้น) ดังนั้นแก้ไขยากครับถ้าจะไม่จ่าย ผมว่าถ้ามันไม่มากนักก็จ่ายไปเถอะครับ เรื่องจะได้จบแล้วคราวหลังก็อย่าไปรับมาอีก ส่วนเรื่องบัตรที่จะทำนั้น ถ้าเป็นระยะหลังนี่อาจจะติดเครดิตบูโรนะครับ แต่ยังไงก็ไม่ถึงกับแบล็กลิสท์หรอกครับ เอาล่ะถ้าหนี้มันไม่มากก็ทนจ่ายไปเถอะครับ จะได้ไม่มีปัญหาต่อมาในภายหลัง
      ขอบคุณนะครับ / Sheep

  47. aun said

    สวัสดีคะ คุณ sheep
    ดิฉันมีเรื่องหนี้บัตรต่าง ๆ มาถามคะ คือดิฉันมีหนี้บัตร ktc 20,000 ,อิออน 10,000,อีซีบาย 32,000 ,เพาเวอรบาย 20,000 ,ควิกแคช 20,000
    ซึ้งมีบัตรที่เคยปิดไปแล้ว อยู่ 4 ใบคือ ktc,อิออน,เพาเวอรบาย, ควิกแคช แล้วก็เอาออกมาใช้อีกทั้งหมดที่เคยปิดไป ซึ่งทุกบัตรได้ใช้หนี้ทุกเดือน
    ซึ่งยอดแต่ล่ัะตัวได้ลดมาก็เยอะ แต่ตอนนี้ดิัฉันตกงานมาเกือบปี ไม่สามารถที่จะชำระหนี้ได้สักใบเพราะตอนนี้ก็รับงานขายของเล็กๆน้อยๆซึ่งรายได้เป็นวันวันละ 200นิดๆถ้าวันไหนไม่ได้ขายก็ไม่ได้เงิน ตอนนี้เดือนร้อนมาก เพราะตัวเองก็แย่มากเพราะงานเป็นหลักก็ยังไม่มี หนี้ก็ทวงทุกวันแทบยังมีหมายศาลมาอีกดิฉันควรทำยังไงคะ แล้วที่อยู่ที่ดิฉันใหไว้เป็นของพ่อแม่ แล้วพ่อแม่ของดิฉันจะเดือดร้อนไมคะ เพราะทางครอบครัวดิฉันก็แย่มากเหมือนกันคะ ดิฉันควรทำยังไงดีคะ

    ช่วยตอบหน่อยนะคะ

    ขอบคุณมากคะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ… Aun
      เรื่องแบบนี้ต้องยอมรับกันไปตามสภาพนะครับ คือเรายังไม่มีเงินจ่าย คิดมากไปมันก็เท่านั้น ส่วนเรื่องที่บ้านลองพูดคุยกับที่บ้านให้เข้าใจ ว่าเรื่องมันเป็นมายังไง ถ้าคุณไม่ได้เป็นเจ้าบ้านก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ ถ้ามีใครโทรมาที่บ้านก็ให้ที่บ้านบอกเค้าไปเลยว่า ไม่รู้เรื่อง รับผิดชอบแทนไม่ได้ เอาแบบนี้จะดีกว่า เพราะเค้าก็ทำได้เพียงแค่ขู่ไปก็เท่านั้น และตัวเราเองก็ค่อยๆเก็บเงินไปเรื่องๆจนสามารถ จ่ายคืนได้ก็ค่อยจ่ายคืนเค้าไป อย่าเป็นกังวลครับ สู้ๆนะครับ เอาใจช่วยอยู่นะครับ
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  48. นิด said

    สวัสดีค่ะ คุณ sheep ดิฉันมีบัตรดังนี้คะ

    1 กสิกร 42,000 บาท (มียอดค้างเกิน 90 วัน บัตรถูกยกเลิก)
    ทางธนาคารติดต่อมาแนะนำให้ปรับโครงสร้างหนี้ แฟกซ์เอกสารมาให้เซ็น คิดดอกเบี้ย MRR+5%
    พฤศจิกายน 52-ตุลาคม 53 เดือนละ 1000 บาท
    พฤศจิกายน 53-เป็นต้นไป เดือนละ 2200 บาท
    และให้จ่าย 2000 บาท ภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 52(เรายังหาเงินไปจ่ายไม่ได้จะเป็นไรมั้ย)
    อยากทราบว่าถ้าเราตกลง ในอนาคตเราพร้อมมีเงินอยากปิดบํญชีจะได้ส่วนลดหรือเปล่า

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ นิด…
      การปรับโครงสร้างหนี้นั้น มันคือการตกลงทำสัญญาใหม่ครับ ดังนั้น เท่ากับว่าเมื่อตกลงทำการปรับโครงสร้างหนี้ หนี้เดิมก็จะหายไป แล้วเกิดสัญญาใหม่ขึ้น ดังนั้น ในอนาคตถ้าจะทำการปิดบัญชี ก็จะต้อง ยึดถือยอดหนี้ใหม่ที่ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เอาไว้ และส่วนลดก็อาจจะได้ในจำนวนที่ไม่มากนัก ยังไงก็ลองดูนะครับ ส่วนเรื่องที่ยังไม่พร้อมจะจ่ายงวดแรกให้เค้าภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 52 ก็ให้ลองบอกเค้าไปตรงๆว่ายังไม่พร้อม เค้าน่าจะช่วยเลื่อนให้ได้นะครับ
      ขอบคุณมากๆครับ / Sheep

      • นิด said

        ขอบคุณมากค่ะ

      • นิด said

        คุณ sheep สอบถามเพิ่มเติมคะ
        1 กสิกร 42,000 บาท (มียอดค้างเกิน 90 วัน บัตรถูกยกเลิก)
        ทางธนาคารติดต่อมาแนะนำให้ปรับโครงสร้างหนี้ แฟกซ์เอกสารมาให้เซ็น คิดดอกเบี้ย MRR+5%
        พฤศจิกายน 52-ตุลาคม 53 เดือนละ 1000 บาท
        พฤศจิกายน 53-เป็นต้นไป เดือนละ 2200 บาท
        และให้จ่าย 2000 บาท ภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 52
        ยอด 42,000 เราสามารถต่อรองให้เค้าลดให้ได้มั้ยคะ ก่อนจะนำยอดนี้ไปปรับโครงสร้างหนี้
        *เจ้าหน้าที่โทรมาให้เซ็นเอกสารและแฟกซ์กลับภายในวันนี้คะ

        2 นครหลงไทย 50,000 บาท (ยังไม่ได้จ่าย 1 เดือน)
        ปกติจ่ายยอดขั้นต่ำทุกเดือน แต่ตอนนี้จ่ายไม่ไหวแล้ว ควรทำอย่างไรดีคะ ถ้าเราติดต่อกลับไปทางธนาคารว่าเราจ่ายไม่ไหวแล้ว มีทางออกอย่างไรบ้าง

  49. นิด said

    คุณ sheep สอบถามเพิ่มเติมคะ
    1 กสิกร 42,000 บาท (มียอดค้างเกิน 90 วัน บัตรถูกยกเลิก)
    ทางธนาคารติดต่อมาแนะนำให้ปรับโครงสร้างหนี้ แฟกซ์เอกสารมาให้เซ็น คิดดอกเบี้ย MRR+5%
    พฤศจิกายน 52-ตุลาคม 53 เดือนละ 1000 บาท
    พฤศจิกายน 53-เป็นต้นไป เดือนละ 2200 บาท
    และให้จ่าย 2000 บาท ภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 52
    ยอด 42,000 เราสามารถต่อรองให้เค้าลดให้ได้มั้ยคะ ก่อนจะนำยอดนี้ไปปรับโครงสร้างหนี้
    *เจ้าหน้าที่โทรมาให้เซ็นเอกสารและแฟกซ์กลับภายในวันนี้คะ

    2 นครหลงไทย 50,000 บาท (ยังไม่ได้จ่าย 1 เดือน)
    ปกติจ่ายยอดขั้นต่ำทุกเดือน แต่ตอนนี้จ่ายไม่ไหวแล้ว ควรทำอย่างไรดีคะ ถ้าเราติดต่อกลับไปทางธนาคารว่าเราจ่ายไม่ไหวแล้ว มีทางออกอย่างไรบ้าง

    ขอบคูณมากคะ

  50. aun said

    สวัสดีค่ะ คุณ sheep
    ดิฉันขอบคุณมากที่ตอบคำถามคราวก่อนให้นะคะ วันนี้ดิฉันมีเรื่องรบกวนคำขอคำปรึกษาอีกครั้งค่ะ
    1.มีเจ้าหน้าที่ของ อีซีบายโทรมาบอกว่าจะลดหนี้ให้ จากยอด 32,000 เหลือ 25,000 ถ้าจ่ายภายในเดือนนี้
    – ถ้าดิฉันจะขอเวลาทางอีซีบาย สักสองเดือนเพือหาวิธีหาเงินจะได้มั้ยค่ะ
    – แล้วถ้าผ่อนจ่ายแต่จะให้หมดภายในสองเดือน คิดว่าทางอีซีบายเขาจะยอมมั้ยค่ะ
    เพราะหนี้ของดิฉันมีหลายตัวอยากจะปิดไปสักตัวแต่เงินตัวเองยังไม่มี คิดว่าจะขายของที่ตัวเองพอมี+กับขอยืมคนอื่นมาใช้มาใช้เพือให้มันหมดไปสักตัวเพราะหนี้ของ อีซีบาย หนักกว่าตัวอื่นๆ

    คุณ sheep ค่ะดิฉันรบกวนขอความคิดเห็นอีกครั้งนะคะ

    ขอบคุณค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Aun…
      จริงๆแล้วถ้าเค้าสามารถให้ส่วนลดได้ครั้งนึงแล้ว ครั้งต่อๆไปก็สามารถทำได้ครับ ดังนั้นถ้าคุณตัดสินใจแล้วว่าจะหาเงินมาปิด ก็ติดต่อบอกกับทาง อีซี่บาย ไปเลยครับว่าขอผ่อนเป็น 2 งวด จ่ายงวดละเดือน เพราะจริงๆแล้วมันเป็นข้อเสนอที่ทาง อีซี่บายเค้ารับได้นะครับ ถ้ายังไงก็ลองดูครับ
      ขอบคุณมากครับ / sheep

  51. TB said

    คุณSheepคะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ
    คือว่าตอนนี้ดิฉันเป็นหนี้บัตรเครดิต 2 ใบ ซึ่งในตอนแรกนั้นดิฉันใช้เพียงแค่ 1 บัตรเท่านั้น แต่ที่กลายมาเป็น 2 ใบ ก็เนื่องจากดิฉันต้องกดอีกใบมาโปะอีกใบ จนตอนนี้วงเงินเต็มทั้ง2ใบค่ะ แต่ดิฉันไม่เคยขาดส่ง หมุนไปมาอยู่ร่ำไป จนในขณะนี้คิดว่า จะหยุดชำระค่ะ เพราะว่า ไม่สามารถหาอะไรไปหมุนได้อีกแล้ว บัตรที่ 1 ของ ktc ยอด 83,000 บาท และบัตรที่ 2 อิออน ยอด 40,000 บาท ทีแรกก็มีหนี้สินอยู่แค่ 2 ใบนี้ แต่ด้วยความที่กลัวการทวงหนี้ และกลัวประวัติเราจะเสีย (บูโร) จึงพยายามหมุน (ลืมบอกว่า ที่ไม่สามารถจ่ายต่อไปได้ เพราะดิฉัน ตกงานมาปีกว่า ๆ ค่ะ )และพยายามทำธุรกิจส่วนตัวแต่ก็ยังไม่รุ่งเท่าไหร่ ภาระในแต่ละเดือน ดูแล้วไม่สามารถจะจ่ายได้แม้แต่ขั้นต่ำ เพราะเท่าที่ผ่าน จากบัตรแค่ 2 กลายเป็นต้องนำทองที่มีไปจำนำ และ ไปกู้เงินนอกระบบเพื่อมาโปะตรงนี้ จนปัจจุบันหนี้รวมยอดประมาณ 250,000 บาท(เอาตัวเลขกลม ๆ ไว้ก่อน) เครียดมากค่ะเพราะรายได้ของแต่ละเดือนก็ไม่ถึงหมื่นเลย
    …ดิฉันคิดว่าจะหยุดชำระตั้งแต่เดือนธค.52เป็นต้นไป เพราะคิดว่าจะขอหยุดตั้งหลักก่อน ดินฉันต้องทำอย่างไรบ้างคะ ต้องเตรียมตัวรบมือกับบริษัททวงหนี้อย่างไรบ้าง
    …การที่ดิฉันหยุดชำระนั้น ประวัติที่เสียในเครดิตบูโร จะไม่สามารถไปทำนิติกรรมอะไรได้เลยประมาณ 10 ปีใช่มั้ย (แต่ก็ต้องยอมที่จะเสียเครดิต)
    …ดิฉันคิดถูกหรือป่าวคะที่จะหยุดชำระ เพราะการที่ดันทุลังชำระไปนั้นในแต่ละเดือน ก็ทำให้ตัวเองและครอบครัวลำบากมาก เพราะมาคิดดูแล้วการหยุดชำระเพื่อตั้งหลักเก็บเงินก่อน กะการประนอมหนี้นั้น น่าจะเลือกอย่างแรกมากกว่า เพราะการประนอมหนี้อาจจะทำให้ยอดมันเยอะกว่าเดิมใช่มั้ยคะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ TB…
      ผมว่านะครับ ค่อยๆแก้ไปทีละเรื่องน่าจะดีกว่า ปัญหาอะไรที่ยังแก้ไขไม่ได้ก็ปล่อยวางไปก่อน เรียงลำดับความสำคัญของปัญหาให้ดีๆ สร้างระบบความคิดขึ้นมาใหม่ อะไรที่พลาดไปแล้วก็ปล่อยไปก่อน สิ่งสำคัญตอนนี้ผมมองว่าไม่ใช้ปัญหาเรื่องหนี้ในระบบอีกแล้วเพราะอย่างไรก็ตาม หนี้ในระบบมันก็มีระบบของตัวมันเอง แต่หนี้นอกระบบนี้สิที่กำลังจะมาเป็นปัญหาต่อจากนี้ ดังนั้นยังไงก็ตามหาวีธีเคลียหนี้นอกระบบใช้จบไปก่อนจะดีกว่าครับ ส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยมาว่ากันอีกที
      ขอบคุณนะครับ / Sheep

  52. TB said

    ต้องขอรบกวนคุณSheepอีกครั้งค่ะ ต่อจากข้อความเมื่อกี้
    ..เมื่อดิฉัน หยุดชำระ และพอต่อไปมีการทวงหนี้จนถึงขั้นฟ้องร้องแล้ว จากที่เป็นหนี้บัตรเครดิตคือแบบกดเงินสดมาใช้แบบนี้
    ทางบริษัท เค้าไม่สามารถมายึดทรัพย์สินอะไรเราได้ใช่มั้ยคะ ขอโทษนะคะที่ถาม แต่อยากทราบจริง ๆ

    • sheep said

      สวัสดีอีกครั้งครับคุณ TB…
      จริงๆแล้วถ้าคดีถึงที่สุด แล้วมีคำสั่งให้ทำการยึดทรัพย์ เค้าก็สามารถทำได้ครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ต้องดูด้วยว่า คุณมีทรัพย์อะไรบ้างที่เป็นของคุณเอง เช่น บ้าน,ที่ดิน,รถ ต่างๆ แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ กว่าจะถึงขั้นนั้นต้องผ่านขึ้นตอนอีกมาก ดังนั้นตอนนี้ปล่อยไปก่อนได้ครับ
      ขอบคุณมากๆครับ / Sheep

  53. TB said

    ขอโทษที อยากถามอีกสักข้อค่ะ
    ..กรณีที่เราหยุดใช้บัตร และหยุดไปชำระ เพราะต้องการตั้งหลักก่อนนั้น จากจำนวนวงเงินเดิมที่เราเป็นหนี้ เค้าจะหยุดไว้แค่นั้นหรือป่าวคะ
    หรือว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนที่คนอื่น ๆ เขียนมา แล้ว ที่เพิ่มมานี่มันมาจากไหนบ้างอะคะ สงสัยอ่ะค่ะ รบกวนตอบด้วยนะคะ
    ขอโทษที่ถามแล้วถามอีก รบกวนจากที่เขียนไปถามคุณSheep 3 ความเห็นที่เขียนไปของ TB ด้วยนะคะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ TB…
      ไม่เป็นไรครับ แต่บางครั้งอาจจะตอบช้าไปซักหน่อย ไม่ว่ากันนะครับ ครับอย่างที่พูดมาไม่ผิดหรอกครับว่าถ้าเราหยุดจ่าย หนี้มันจะไม่อยู่กับที่ โดยหลักแล้วมันจะเพิ่มขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ย ค่าติดตาม ค่าทวงทาม ต่างๆ แต่ผมไม่อยากให้ไปมองตรงนั้นนะครับเพราะ เราต้องมองที่ผมสรุปมากกว่า คือ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสำหรับตอนนี้เรายังไม่มีกำลังพอที่จะไปจัดการกับหนี้พวกนี้ ดังนั้นถ้ายังจัดการไม่ได้ก็ปล่อยมันไปก่อน แต่ไม่ใช่ว่าจะละเลยนะครับ ค่อยๆเก็บเงินไปเรื่อยๆ เก็บให้ได้เป็นก้อน แล้วเคลียให้จบไปทีละอย่าง เรื่องอัตราดอกเบี้ยต่างๆ พอถึงเวลามันก็มีวิธีการที่จะหลบเลี่ยง หรือ ขอทำส่วนลดต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมเองครับ ดังนั้นทำใจให้ว่างจัดการระบบความคิดของตัวเอง และค่อยๆทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ หนี้ตัวไหนที่เรามีกำลังพอที่จะจัดการได้ก็ค่อยๆจัดการไป อาจจะไล่ไปจาก น้อยไปหามาก ไม่สร้างหนี้เพิ่ม ถ้าทำได้ตามนี้ ปัญหาทุกๆอย่างก็จะเรื่อมคลี่คลายไปเองครับ
      ขอบคุณมากๆเลยครับ / Sheep

  54. TB said

    ขอบคุณคุณSheep สำหรับคำตอบนะคะ
    ตอนนี้ก็ตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะไม่จ่าย จะขอหยุดเก็บเงินก่อน
    เมื่อถึงตอนที่ถึงขั้นฟ้องร้องกัน ณ ตอนนั้นน่าจะมีเงินมาจ่ายเค้าบ้าง แต่เรื่องทรัพย์สินที่จะให้ยึดก็ไม่มีหรอกค่ะ มีแค่มอไซค์คันเดียว
    ถ้าหากตอนนั้น เราหาเงินมาชำระให้เค้าได้แล้ว เค้าคงจะไม่มายึดเราใช่มั้ยคะ
    …คุณSheepคะ หลังจากที่เราหยุดจ่ายไปนั้น จากวงเงินของบัตรที่เต็มอยู่ บวกค่าธรรมเนียมโน่นนี่นั่นแล้ว เขาจะคิดบวกเราอีกมากมั้ยคะ
    เอาคร่าว ๆ ก็ได้ค่ะ แบบคงไม่ถึงขนาดทบต้นทบดอกใช่มั้ยคะ รบกวนตอบให้คลายสงสัย ด้วยนะ เป็นกังวลค่ะ
    ขอบคุณมากนะคะ

  55. JOJOMOJO said

    คุณSheepคะ รบกวนตอบหน่อยนะคะ

    คือดิฉันเป็นหนี้บริษัทเซทเทเลมอยู่ 28000 บาท

    ซึ่งดิฉันไม่ได้จ่ายมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้ว และมีเจ้าหน้าที่ติดตามทวงหนี้เป็นระยะๆ

    ในเดือนนี้ดิฉันจึงต้องการจะปิดบัญชีของเซทเทเลม

    ดิฉันจึงโทรไปทางบริษัทเพื่อถามยอดที่จะปิดบัญชีซึ่งทางบริษัทแจ้งว่ามียอดชำระ 28,560 บาท

    แต่เค้าลดให้เหลือ 26,500 บาท ดิฉันควรจะชำระเลยหรือทางบริษัทจะเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ ย้อนหลังหรือไม่

    และการที่บริษัทปิดตัวไปแล้วดิฉันยังต้องจ่ายหนี้ต่อไปอีกหรือป่าวคะ

    ขอบคุณคุณ Sheep มากค่ะ

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ JOJOMOJO…
      ถ้าเป็นหนี้ก็ต้องใช้ครับ มันเป็นหลักการที่แน่นอน เพียงแต่เราต้องดูตามสถานการณ์น่ะครับ อย่างกรณีของคุณนั้น ผมคิดว่ารอเฉยๆไปอีกซักพักคงจะดีกว่าครับ น่าจะได้ส่วนลดเยอะขึ้นอีกหน่อย แต่ถ้าคุณพอใจกันส่วนลดที่เค้าให้มาแล้วนั้น ก็ตัดสินใจได้เลยนะครับ แต่ยังไงถ้าจะมีการจ่ายต้องขอเอกสารปิดจบหนี้จากบริษัทที่รับเงินจากเราไปด้วยนะครับ จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง
      ขอบคุณมากครับ / Sheep

  56. noi said

    พี่ค่ะ
    ขอรบกวนถามค่ะ หนูมีปัญหาดังนี้
    1.หนูซื้อคอมกับเฟริสช้อย ผ่อน 6 เดือน จ่ายช้าไป 1 เดือน เค้าคิดค่าปรับ 250
    2.เดือนที่สอง หนูจ่าย ค่างวด งวดละประมาณ 2800 จ่ายแล้ว แต่ไม่จ่ายค่าปรับ 250
    3. งวดที่สาม เค้าโทรมาทวงให้จ่ายค่าปรับ ว่าหนู จ่ายไม่ครบ ตอนนี้ คิดเป็น 7 ร้อยกว่าบาท
    ซึ่งดอกเบี้ย มันเกิดขึ้นจากค่าติดตามหนี้ แล้วหนูว่าจะไม่จ่าย จนกว่าจะผ่อนค่างวดหมด เค้าว่า ยังไง ก็ก็จะทวงอย่างนี้เพราะเป็นหน้าที่ของเขา
    หนูไม่จ่ายได้มั้ย แล้วเค้าจะ ดิสเครดิตรึเปล่าค่ะ

    สาเหตุที่จ่ายช้า ครั้งแรก เพราะลืมวันจ่ายแล้วเค้าโทรมาทวงหลังจากหมดวันกำหนดจ่ายแล้ว หนูเลยบอกไปว่า นี่ไม่ใช่ค่าติดตาม เพราะถ้าค่าติดตาม ต้องตาม ก่อน ถึงกำหนด ลืมจริง ๆ ค่ะ

    หนูไม่จ่าย จะเป็นอะไรมั้ย ค่าติดตามทวงหนี้ + ดอกเบี้ยค่าติดตามทวงหนี้ อ่ะ บริษัทเฟริสช้อยค่ะ ปวดหัวมากเกลียดคนทวงพูดไม่ดีเลย

    • sheep said

      สวัสดีครับคุณ Noi…
      ครับยินดีครับที่ได้มีโอกาสพูดคุยกัน เรื่องค่าปรับเนี้ย มันเกิดขึ้นจริงครับ แล้วแต่ที่แล้วแต่บริษัท บางที่ก็ 250 บางที่ก็ 300 แต่ก็จะอยู่ประมาณนี้แหละครับ แต่ที่มันโหดก็คือไอ้ค่าปรับเนี้ยมันคิดเป็นต่อ 1 ครั้งนะครับ ถ้าเค้าโทรมาตามระบบ 2 ครั้งก็ คิด 2 รอบ แต่ทางที่ดีถ้าไม่มีปัญหาอะไรมากนักพยายามอย่าผิดนัดเค้าจะดีกว่าครับ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว มันก็มีวิธีแก้อยู่ 2 วิธีด้วยกันครับ คือ 1.ขอกับทางบริษัทที่โทรมาตรงๆไปเลยว่าเว็ฟให้ได้มั้ย อ้อนวอนซักนิด คนเค้าทำวิธีนี้กันเยอะไปครับ ส่วนข้อ 2.ถ้ามันไม่มากนักตัดใจจ่ายไปเถอะครับ แล้วครั้งหลังอย่าลืมอีก จะได้ไม่ต้องเสียเงินในส่วนที่ไม่ควรเสีย ยังไงก็ลองเองไปคิดดูนะครับ
      ขอบคุมากครับ / Sheep

  57. sopavadee said

    สวัสดีค่ะ
    ดิฉันมีปัญหาอยากเรียนถามหน่อยค่ะ ตอนนี้ดิฉันมีหนี้ อิออน กรุงไทย กรุงศรี เซ็นทรัล โลตัส อีซีบาย
    นครหลวงไทย มีประนอมหนี้กับเพาเวอร์บาย GE แสตนดาร์ด เมื่อก่อนก็ไม่ผิดนัดเพราะกดบัตรนั้นมาใส่บัตรนี้ มาหลายปี หมุนมาตลอด จนมาตอนนี้ดิฉันไม่ได้จ่ายมาประมาณ 3-4 เดือน ตอนแรกโดน
    โทรถวงกลุ้มใจมาก ๆ จนมาอ่าน เว๊ปไซค์ นี้ พอให้ทำใจต่อสู้ได้บ้างขอชมว่ามีบุญคุณกับผู้ทุกข์ทรมาน
    ได้ชี้แสงสว่างและให้กำลังใจ ไม่มีอะไรที่ดีกว่าเมื่อตอนทุกข์มีคนเห็นใจ อยากขอรบกวนช่วยตอบว่าการประนอมหนี้ดีหรือเปล่า และชำระมาดีตลอด แต่พอแย่ไม่มีจ่ายแค่ 1 เดือนก็โดนว่ามาก ๆ เลย
    ตอนนี้ทำงานบริษัทเอกชนทำอย่างไรดี กลัวโดนฟ้องร้องจะมีผลกับที่ทำงานกลัวโดนไล่ออกจากงาน
    ช่วยตอบและเป็นกำลังใจให้ดิฉันต่อไปนะค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

  58. รๆไพ said

    เป็นหนี้บัตรเฟริชส์ชอยส์อยู่ประมาณ20000ไม่ได้จ่ายค่างวด2งวดจะโดนฟ้องไหมคะ สินเชื่อมีอายุกี่ปีถ้าไม่จ่ายจะเป็นอะไรไหม

  59. pa said

    ตอนนี้เป็นหนี้ค่างวดรถมอเตอร์ไซค์อยู่ต้องจ่ายทุกเดือนเดือนละ2155บาทแต่ตอนนี้มีปัญหาขาดส่งมาจะได้2งวดแล้วเขาก็โทรมาทุกวันก็เลยบอกเขาไปว่ายังไม่เงินตอนนี้แม่ไม่สบายในกรณีแบบนี้ถ้าเราจะขอสินเชื่อเพื่อจะเอาเงินมาปิดบัญชีทั้งหมดจะได้หรือเปล่าคะแล้วถ้าเขาเช็ดเครดิตบูโรเราจะติดแบลส์ลิสต์หรือเปล่าแต่ยังไม่เคยทำบัตรเครดิตอะไรเลยจะได้รับการอนุมัติจากสินเชื่อนั้นหรือเปล่าช่วยตอบด้วยนะคะ

  60. ยังไงก้อรบกวนส่งรายละเอียดต่างๆ มาทางอีเมลล์ก้อได้ค่ะ แล้วส่งที่อยู่สำหรับจัดส่งเอกสารด้วยนะคะเด๊วตาส่งเอกสารไปให้

  61. jantana said

    เรียนคุณ sheepsheep อีกครั้งค่ะ

    ดิฉันได้เคยโพสต์มาสอบถามปัญหาอยู่สองครั้ง..แต่ปัญหาหนี้สินของดิฉันยังไม่จบสิ้นลงเลยยังมีปัญหามารบกวนปรึกษาค่ะ

    ตอนนี้ดิฉันมีหนี้บัตรเครดิตคงเหลือของ KTC ยอดจำนวนเงินสุดท้ายที่ไม่ได้ส่งคือ ก.พ.09 จำนวนประมาณ 100,000 บาท และยังไม่ได้ชำระเลยหลังจากนั้นเพราะไปจัดการบัตรอื่นๆ อยู่ จนบัดนี้ยอดเงินที่ทางธนาคารส่งมาอยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท ทางธนาคารได้ส่งเอกสารทวงหนี้อยู่ทุกเดือน แต่ดิฉันก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปเลย เพราะว่ายังไม่มีเงินก้อนที่จะไปเจรจาด้วย คิดว่าอาจจะเป็นช่วงปลายปีถึงจะพอมีเก็บเงินได้บ้าง

    แต่ไม่นานนี้ดิฉันได้รับโทรศัพท์จากทางธนาคาร หรือบริษัทติดตามหนี้ก็ไม่ทราบโทรมาถึงที่ทำงาน ซึ่งไม่ทราบว่าไปค้นหาเบอร์มาได้จากที่ไหน…ดิฉันเกรงว่าหลังจากนี้เป็นต้นไปคงจะโทรมารบกวนที่ทำงานอีกไม่หยุดหย่อนแน่ และอาจสร้างความเสียหายให้กับดิฉันได้

    ดิฉันอยากปรึกษาคุณว่า ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไป เจรจาปิดบัญชีกับทางธนาคารไปเลย คิดว่าจะต้องมีเงินสักเท่าไหร่คะ (คงต้องไปยืมคนอื่นมา) หรือว่ารอจนกว่าจะฟ้อง (เมื่อไหร่แน่คะ) เพราะตอนนี้ดิฉันไม่มีเงินก้อนแน่ๆ ไม่คิดจะหลบเลี่ยงธนาคารแต่อย่างใด แต่ต้องใช้เวลาในการเก็บเงินอีกสักพัก การไปเจรจาประนอมนี้ต้องทำอย่างไรคะ ดิฉันทราบว่าคุณ Sheep มีบริการไปปิดบัญชีด้วย…ค่าใช้จ่ายจะสักเท่าไหร่คะ

    รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ

  62. พัชรินทร์ said

    สมาชิกใหม่ค่ะ อ่านปัญหาของทุกๆ ท่านมากค่ะ แต่พอถึงตัวเอง แล้ว ก็มีกำลังใจขึ้นมาบ้างค่ะ แต่ก็อยากได้ความมั่นใจและเรียนขอคำปรึกษาค่ะ

    รายละเอียดหนี้
    นครหลวง 100,000 ประนอมหนี้ จ่าย 4,450 24 งวด ตอนนี้ส่งไม่ได้แล้ว 2 เดือน
    ซิตี้แบงค์ 200,000 ประนอมหนี้ จ่าย 4,8oo ตอนนี้ส่งไม่ได้แล้ว 2 เดือน
    first choice 100,000 กำลังส่งเรืองประนอมหนี้ วันนี้ค่ะ เค้าให้ทำเรื่องไปก่อน
    ไทยพาณิชย์ 120,000 ขาดส่ง 4 งวด
    กรุงศรีฯ 100,000 ขาดส่ง 4 งวด

    ทำธุรกิจส่วนตัว ตอนนี้ขาดทุนมานานกว่า ปีแล้ว รายรับ ไม่แน่นอน บางเดือน ก็ไม่ถึง สองหมื่นด้วยซ้ำค่ะ
    ผ่อนบ้าน 12,000 ขาดส่งแล้ว 1 เดือน (ชื่อของตัวเอง)
    ผ่อนรถ อีก 1 คัน เดือนละ 14,000 (ชื่อของน้องสาว)

    อยากเรียนถามดังนี้ค่ะ

    1.ในส่วนประนอมหนี้แล้วนั้น ถ้าขาดส่ง จะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะ และต้องแก้ยังไงดี
    2.ที่ไม่ประนอมก็ต้องหยุดไปเลย ถูกต้องหรือไม่ค่ะ
    3.ถ้าคดีถึงศาลแล้ว เค้ามีสิทธิ์ ยึดทรัพย์ รถ หรือ บ้านเราหรือป่าวค่ะ
    4.ของ first choice ที่ส่งเรื่องไปแล้ว Fax กรอกเอกสาร ถือว่า เป็นการประนอมหนี้สมบูรณ์แบบหรือไม่ ในเมื่อเรายังไม่ได้จ่ายงวดแรกค่ะ

    ขอบคุณค่ะ

  63. คนเป็นหนี้เหมือนกัน said

    อนทนครับ ไอ้พวกนี้แม่งคิดดอกเบี้ยแพงเกิน กินเลือดกับปู อนทนครับ เข้าใจครับคนเป็นหนี้เหมือนกัน

    – สูตร A ) คือ ดึงเวลา รอ hair-cut ลดหนี้ กี่เปอร์เซนต์ % และ ส่งได้กี่งวด จากบริษัทรับจ้างทวงหนี้ /// 50-70 % ค่อยจ่ายมัน เพราะบริษัทและ bankเจ้าของหนี้ พวกนี้ดีกว่ามันตั้งเป็นหนี้ศูนย์ ได้คืนบ้างมันก็ดีใจแล้ว /// ถ้าแกล้งผัดผ่อนไปเรื่อยจนหมดอายุความฟ้องก็ มี เฮ 55555

    – สูตร B ) ดึงผัดผ่อนสุดๆ แล้ว แต่ยังไม่มีเงินจ่ายเขา ก็รอให้มันฟ้องศาลไป ได้ลดดอกเบี้ยอีกต่างหาก ก่อนศาลจะนัดหมาย ก็ยืดเวลาออกไปได้อีกพอควร แล้วเราก็ไปศาลตามเวลานัดหมาย(ไปดีกว่าไม่ไปศาล เดี่ยวเจ้าหนี้มันว่าฝ่ายเดียว) ไปศาลแล้วก็มีสิทธิเลื่อนไปได้ 1 นัด บอกศาลว่าเจรจากันอยู่แต่ยังตกลงกันไม่ได้ ขอเลื่อนนัดไปก่อน ส่วนจะเลื่อนไปได้นานแค่ไหน แล้วแต่ผู้พิพากษาแต่ละคนจะเห็นใจเรา ก็ต้องยกแม่น้ำทั้งห้า ตกงาน มีลูกหลายคนต้องเลี้ยงดู ไม่โกงแต่ขอเวลาเก็บเงินใช้หนี้เขานะศาลจ๋า

  64. เดช said

    สอบถามนิดครับ
    การที่เรามีหนี้มากจนจ่ายแม้แต่ขั้นต่ำไม่ไหว แล้วหยุดจ่าย
    รอเค้าประนอมหนี้ หรือส่งฟ้องศาล ตกลงกันหน้าศาล ลดหนี้ลง (แล้วเราก็หามาจ่ายเค้าได้ทีหลัง)

    แบบนี้เราจะติดเครดิตบูโรหรือไม่ครับ อนาคตเราจะสามารถใช้บัตรเครดิต หรือว่าขอกู้อะไรได้อีกหรือเปล่า หรือว่าการไม่ยอมจ่ายปล่อยให้เค้าทวงจนส่งฟ้อง (แต่สุดท้ายเราก็จะจ่ายให้จนหมดนะ) แปลว่าชาตินี้หมดเครดิตไปเลย ขอกู้อะไรไม่ได้อีกแล้ว บัตรเครดิตใช้ไม่ได้อีก หรือเปล่าครับ

  65. jeed said

    เรียนคุณ sheep
    ดิฉันมีปัญหาอยากเรียนถามค่ะ ดิฉันเงินเดือน 30000บาท ตอนนี้ดิฉันมีหนี้กรุงศรีจาก50000 เหลือ 40000(ดอกโหด) UOB บัตรกดเงินสด 40000 ดอกโหด KTC จาก 35000 เหลือ 26000 บาท
    CIMB สินเชื่อโหด ผ่อนตั้งแต่ยอด 78000 หลายปี
    จนเหลือยอด 50000 (เพิ่งทราบว่ามีแต่จ่ายดอกเบี้ย)และมีหนี้นอกระบบอีก 80000 บาท มีส่งค่างวดรถอีก 7210 ต่อเดือน(จำเป็นต้องใช้ทำมาหากินคะเป็นเซลบริษัท)ส่งหนี้บริษัทเดือนละ4000บาท(กู้มา 300000 โดยไม่มีดอกเบี้ย)
    ทุกวันนี้จ่ายบัตรตามปกติขั้นต่ำมาตลอดโดยใช้วิธีกดบัตรนั้นโป๊ะบัตรนี้ ทุกวันนี้ดิฉันเครียดกับวิธีการแบบนี้มากจนได้มาเจอเว๊ปไซค์ของคุณ ดิฉันไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีเว๊ปไซค์แบบนี้เพราะความเครียดแท้ๆที่ทำให้ต้องดิ้นรนหาทางออกจนมาเจนคุณรู้สึกอ่นใจขึ้นมาบ้าง ที่มีคนเข้าใจคนเป็นหนี้อย่างดิฉัน
    เครียดมากคะเพราะต้องรับผิดชอบหลายอย่างทั้งที่บ้านน้องๆ เงินติดลบทุกเดือนละเป็น10000 จึงอยากขอคำปรึกษาจากคุณคะ

    1. ดิฉันจะหยุดส่งบัตรเพราะถ้าทำแบบเดิมอีกหนี้คงขึ้นเยอะกว่านี้แน่คะหรือว่าต้องขอเจรจาลดหนี้ดีคะและวิธีเจรจาต้องทำยังไงคะ (แต่ยังไม่เคยหยุดส่งหรือผิดนัดส่ง)
    2.ดิฉันจะรวมหนี้แล้วหาแหล่งเงินกู้ใหม่ดีหรือไม่ และก็ไม่รู้จะผ่านหรือเปล่า
    แต่ใจจริงอยากให้เจ้าหนี้ลดหนี้ให้ สัก50-60% ดิฉันจะพยายามกัดฟันทนหาแหล่งเงินกู้มาปิดบัญชีโหดเพราะไม่อยากเป็นคนโกงใครดิฉันควรเจรจากับเจ้าหนี้แบบใหนคะ
    ช่วยตอบและเป็นกำลังใจให้ดิฉันต่อไปนะค่ะ

  66. แดง said

    ช่วยติดต่อกลับ 0813022899จ่ายไม่ไหวแล้วค่ะ แจง

  67. ariya said

    ดิฉันได้รับ จดหมายทวงหนี้มือถือจากบริษัทรับทวงหนี้ ซึ่งดิฉันไม่เคยเปิดใช้ จำนวนเงิน 999.75 ของ ดีแทค จดหมายบอกว่าหากเพิกเฉย จะส่งศาลนอกจากหนี้อาจต้องจ่ายค่าศาล ค่าทนาย หากศาลพิพากษา ไม่ทำตามถูกอายัดเงินเดือน เงินฝาก
    ดิฉันควรทำอย่างไร

  68. คำ้ำประกัน said

    ผมได้ค้ำประกันรถยนต์มือสองคันหนึ่งเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว โดยผู้เช่าซื้อได้ขายรถคันดังกล่าวไปแล้วโดยที่ยังผ่อนไม่หมด(ซื้อขายกันเองไม่ผ่านไฟแนนท์) ปรากฎว่าคนที่ซื้อต่อไม่ผ่อน ได้มีบริษัททวงหนี้ติดต่อมาว่ามีหนี้ต้องรับผิดชอบร่วมเป็นเงินพร้อมดอกเบี้ยเป็นเงินรวม 46,000 บาท ตอนนี้ผมได้ติดต่อผู้เช่าซื้อเค้าบอกไม่รู้จะจ่ายยังไงเนื่องจากทวงมาหลายคนกลัวจ่ายไปแล้วเงินหาย (แต่ดูแล้วเค้าคงไม่จ่าย)
    ส่วนตัวผมฐานะคนค้ำประกันก็ไม่อยากจ่าย ผมในฐานะคนค้ำประกันต้องทำอย่างไรดี แล้วอายุความกี่ปี
    ขอบคุณครับ

ส่งความเห็นที่ ปังคุง ยกเลิกการตอบ